วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

"แม่มดน้อยกิกิ" ประกาศทำละครเวทีแนวละครเพลง ครั้งที่ 5

วรรณกรรมเยาวชน Kiki's Delivery Service แม่มดน้อยกิกิ (Majo no Takkyuubin) ผลงานของ อ.Eiko Kadono
จะได้นำไปดัดแปลงเป็นละครเวทีแนวละครเพลง จัดแสดงที่ New National Theater โตเกียว วันที่ 1-4 มิ.ย. 2017
แล้วย้ายไปจัดแสดงต่อที่ Umeda Arts Theater โอซาก้า วันที่ 31 ส.ค. - 3 ก.ย. 2017 โดยได้ Kouki Kishimoto
มารับหน้าที่กำกับพร้อมทั้งเขียนบท แม่มดน้อยกิกิ The Musical และ Ryota Kojima รับหน้าที่แต่งเพลง
สำหรับครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่ 5 แล้วที่ได้มีการนำวรรณกรรมชุดนี้ไปจัดแสดงในรูปแบบละครเพลง



รายชื่อนักแสดงบทนำ แม่มดน้อยกิกิ The Musical

Moka Kamishiraishi รับบทเป็น Kiki



เคยมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง เกมลับ ดับสมอง Nou Shou Sakuretsu Girl (รับบทเป็น Maika Senu) ในปี 2015,
Kin Medal Otoko (รับบทเป็น Yoko Kuroki) ในปี 2016 และ Haruchika ที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที๋ญี่ปุ่น
4 มี.ค. 2017 (รับบทเป็น Taeko Yonezawa) คิดว่าคงคุ้นๆกันนามสกุลกันแน่ๆ ใช่แล้ว เธอคนนี้เป็นน้องสาวของ
Mone Kamishiraishi ที่พากย์เป็น Mitsuha Miyamizu ในภาพยนตร์อนิเม Kimi no Na wa. (your name.) นั่นเอง

Aran Abe หนึ่งในสมาชิก Johnny's Jr (Haruka Sakurai - Kinkyori Renai ~ Season Zero ~) รับบทเป็น Tombo



วรรณกรรมเยาวชนชุด แม่มดน้อยกิกิ เนื้อเรื่องหลักมีทั้งหมด 6 เล่ม
- Majo no Takkyuubin (Kiki's Delivery Service ตอน กำเนิดแม่มดกล้าแก่น) ออกวางแผงในญี่ปุ่น 25 ม.ค. 1985
- Majo no Takkyubin 2: Kiki to Atarashii Mahou (Kiki's Delivery Service 2 ตอน แม่มดยังขยัน) ออกวางแผงในญี่ปุ่น 30 มิ.ย. 1993
- Majo no Takkyubin 3: Kiki to Mou Hitori no Majo ออกวางแผงในญี่ปุ่น 20 ต.ค. 2000
- Majo no Takkyubin 4: Kiki no Koi ออกวางแผงในญี่ปุ่น 10 มี.ค. 2004
- Majo no Takkyubin 5: Mahou no Tomarigi ออกวางแผงในญี่ปุ่น 9 ก.ค. 2007
- Majo no Takkyubin 6: Sorezore no Tabidachi ออกวางแผงในญี่ปุ่น 15 ต.ค. 2009
และไซต์สตอรี่อีกหนึ่งเล่ม Majo no Takkyubin Bangai-hen: Sono-chan ga Osono-san ni Natta Wake
เล่าเรื่อง Sono-chan วัยเด็กของ Osono-san เจ้าของร้านเบเกอรี่ในเนื้อเรื่องหลัก เริ่มแรกลงให้อ่านออนไลน์
ในเว็บของ Fukuinkan Shoten แล้วจึงได้ตีพิมพ์ออกเป็นเล่มออกมาวางแผงในญี่ปุ่นเมื่อ 20 ค.ค. 2016



วรรณกรรมเยาวชนชุด แม่มดน้อยกิกิ ฉบับภาษาไทยทางสนพ.Neo Edutainment เคยได้ลิขสิทธิ์มาตีพิมพ์
แต่ออกวางจำหน่ายได้เพียงแค่สองเล่มแรกเท่านั้น ภาพปกทั้งสองเล่มก็ใช้ภาพเดียวกันกับฉบับภาษาญี่ปุ่น



Hayao Miyazaki แห่งสตูดิโอ Ghibli ได้นำเอาเล่มแรกของวรรณกรรมเยาวชนชุด แม่มดน้อยกิกิ มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อนิเม
เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปเมื่อ 29 ก.ค. 1989 กวาดรายได้ในญี่ปุ่นไป 2,200 ล้านเยน โดยได้นักพากย์ Minami Takayama
(Envy - Fullmetal Alchemist: Brotherhood) รับบทเป็น Kiki, Rei Sakuma (Shampoo - Ranma 1/2) รับบทเป็นแมวดำ Jiji,
Kappei Yamaguchi (Usopp - Onepice) รับบทเป็น Tombo และ Keiko Toda (Anpanman - Soreike! Anpanman) รับบทเป็น Osono

ภาพยนตร์อนิเม แม่มดน้อยกิกิ กวาดรางวัลมามากมาย
- ภาพยนตร์อนิเมยอดเยี่ยม จาก Anime Grand Prix ครั้งที่ 12 ของนิตยสาร Animage ฉบับเดือน พ.ค. 1990
- Kiki ตัวละครหญิงยอดเยี่ยม จาก Anime Grand Prix ครั้งที่ 12 ของนิตยสาร Animage ฉบับเดือน พ.ค. 1990
- Yasashisa ni Tsutsumaretanara เพลงประกอบยอดเยี่ยม จาก Anime Grand Prix ครั้งที่ 12 ของนิตยสาร Animage ฉบับเดือน พ.ค. 1990
- ภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม จาก Mainichi Film Competition ครั้งที่ 44
- ภาพยนตร์อนิเมยอดเยี่ยม จาก Mainichi Film Award ครั้งที่ 44
- ภาพยนตร์ญี่ปุ่นยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของผู้อ่านนิตยสารเกี่ยวกับภาพยนตร์ Kinema Junpo
- Special Award จาก Japan Academy Prize ครั้งที่ 13
- Gold จาก Japanese Film Golden Gross Award ครั้งที่ 7
- Special Achievement Award จาก The Movie's Day
- Special Award จาก The Erandole Award
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จาก Japan Cinema Association Award
- Hayao Miyazaki ผู้กำกับยอดเยี่ยม จาก Japan Cinema Association Award
- Excellent Movie จาก Japanese Agency of Cultural Affairs (หน่วยงานรัฐบาลภายใต้กระทรวงศึกษาธิการของญี่ปุ่น)



วรรณกรรมเยาวชนชุด แม่มดน้อยกิกิ เคยนำไปจัดแสดงเป็นละครเวทีแนวละครเพลง หรือ The Musical มาแล้วถึง 4 ครั้ง
สามครั้งแรกในปี 1993, 1995-1996 กำกับโดย Yukio Ninagawa, เขียนบทโดย Kensuke Yokouchi, เพลงโดย Ryudo Uzaki
และครั้งที่สี่ เป็นครั้งแรกที่ชาวต่างชาตินำวรรณกรรมชุดนี้ไปจัดแสดงเป็นละครเพลงที่ Southwark Playhouse ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 2016 จนถึงวันที่ 8 ม.ค. 2017 ที่ผ่านมา Kate Hewitt รับหน้าที่กำกับ และ Alice Hewkin รับบทนำเป็น Kiki
ร่วมด้วยนักแสดงอย่าง Jack Parker รับบทเป็น Tombo, Paksie Vernon รับบทเป็น Osono, Matthew Forbes รับบทเป็น Jiji,
Anna Leong Brophy รับบทเป็น Kokiri แม่ของ Kiki และ Tom Greaves รับบทเป็น Okino พ่อของ Kiki

ภาพบางส่วนจาก Kiki's Delivery Service The Musical ที่ Southwark Playhouse















ไม่เพียงเท่านั้น วรรณกรรมเยาวชนชุด แม่มดน้อยกิกิ ยังเคยได้นำสองเล่มแรก ไปสร้างเป็นภาพยนตร์เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น
ไปเมื่อ 1 มี.ค. 2014 กำกับโดยTakashi Shimizu นำแสดงโดย Fuka Koshiba รับบทเป็น Kiki ทำให้เธอคว้ารางวัลคลื่นลูกใหม่ยอดเยี่ยม
จาก Blue Ribbon Awards ครั้งที่ 57 กับ Japan Movie Critics Award ครั้งที่ 24, Ryohei Hirota รับบทเป็น Tombo, Machiko Ono
รับบทเป็น Osono และนักพากย์ Minako Kotobuki (Tsumugi Kotobuki - K-ON! , Blue Rose - Tiger & Bunny) มาให้เสียงเป็นแมวดำ Jiji
สำหรับประเทศไทย United Home Entertainment (UHE) ได้นำภาพยนตร์เรื่องนี้เข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์ไปเมื่อ 28 ส.ค. 2014

กิกิเป็นลูกสาวของแม่มด โคคิริ ที่ตามกฎโบราณของแม่มด เมื่อกิกิอายุครบ 13 ปีจะต้องออกจากบ้าน
และเดินทางไปใช้ชีวิตที่อื่นคนเดียวเป็นเวลาหนึ่งปี เธอจึงออกเดินทางพร้อมด้วย จีจี้ แมวดำของเธอ และบินไปอยู่ที่มือง โคริโกะ
ซึ่งตั้งอยู่บนหมู่เกาะกลางทะเลอันไกลโพ้น โดยได้พักอยู่ที่ร้าน บาย บาย เบเกอรี่ ของ โอโซโน่ เจ้าของร้านใจดี
กิกิตัดสินใจเปิดบริการส่งของโดยใช้ไม้กวาดเป็นพาหนะคู่ใจ และได้พบกับหนุ่มน้อย ทอมโบะ ที่หลงรักการบิน
ไม่นานเธอก็ได้รับงานส่งของมากมาย แต่โชคร้ายที่ข่าวเรื่อง “คำสาป” แพร่กระจายออกไป ทำให้ผู้คนคืนทุกอย่างที่เธอส่ง
และจู่ๆ กิกิก็ไม่สามารถบินได้ จนเธอตัดสินใจละทิ้งความหวังที่จะเป็นแม่มดเต็มตัว กิกิจะทำอย่างไรต่อไป?
เธอจะกลับมาใช้เวทย์มนตร์และได้รอยยิ้มกลับมาหรือไม่?



ที่มา natalie , fukuinkan , kiki , lovejapanmagazine , neoedu 1 , neoedu 2 , southwarkplayhouse

Fate/kaleid liner Prisma ☆ Illya Movie เผยชื่อเรื่องพร้อมโลโก้

ทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของอนิเม Fate/kaleid liner Prisma ☆ Illya ได้เผยชื่อเรื่องพร้อมโลโก้ของภาพยนตร์อนิเม
"Fate/kaleid liner Prisma ☆ Illya: Yukishita no Chikai (Fate/kaleid liner Prisma ☆ Illya: Oath Under the Snow)"
ซึ่งมีแผนจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อน 2017



ที่มา otasuke