วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Chi's Sweet Home 3DCG Anime ประกาศทำซีซั่น 2

ภายในงาน Japan Expo 2017 ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ก.ค. 2017 ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศออกมาว่า
ทีวีอนิเม Chi's Sweet Adventure 3DCG หรือ Koneko no Chi Ponponra Daibouken ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง
Chi's Sweet Home ผลงานของ อ.Kanata Konami จะได้ทำต่อทีวีอนิเม ซีซั่นสอง ต่อแน่นอนแล้ว







อ.Kanata Konami เขียนการ์ตูนเรื่อง Chi's Sweet Home ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน Morning ในปี 2004-2015 รวมเป็นฉบับรวมเล่ม 12 เล่มจบ
สตูดิโอ Madhouse ได้นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปทำเป็นทีวีอนิเม Chi's Sweet Home บ้านนี้ต้องมีเหมียว ความยาว 104 ตอนจบ (ตอนละ 3 นาที)
ในปี 2008 แล้วสร้างภาคต่อในชื่อว่า Chi's New Address ความยาว 104 ตอนจบ ในปี 2009 และ Original Video Animation ตอน
Chi Meets Kocchi มาพร้อมกับฉบับรวมเล่ม 7 แบบ Limited Edition (23 เม.ย. 2010) แล้วได้นำมาทำใหม่เป็น 3DCG ในชื่อว่า
Koneko no Chi Ponponra Daibouken เริ่มออกอากาศไปตั้งแต่เดือน ต.ค. 2016 ซึ่งจะมาถึงตอนจบซีซั่นแรกในเดือน ก.ย. 2017

รายชื่อนักพากย์ใน Koneko no Chi Ponponra Daibouken
- Satomi Koorogi พากย์เป็น Chi (กลับมารับบทเดิมที่เคยพากย์ใน Chi's Sweet Home กับ Chi's New Address)
- Ryoko Shiraishi พากย์เป็น Yohei Yamada (เดิมพากย์โดย Etsuko Kozakura)
- Makoto Yasumura พากย์เป็น พ่อของ Yohei (เดิมพากย์โดย Hidenobu Kiuchi)
- Maaya Sakamoto พากย์เป็น แม่ของ Yohei (เดิมพากย์โดย Noriko Hidaka)
- Rikiya Koyama พากย์เป็น แมวดำ Kuroino (เดิมพากย์โดย Kiyoyuki Yanada)
- Motoko Kumai พากย์เป็น คจจิ Kocchi (เดิมพากย์โดย Houko Kuwashima)
- Noriko Hidaka พากย์เป็น แม่ของ Chi



จี้ ตัวละครเอกในเรื่อง เป็นลูกแมวลายสีขาว-เทา ตาโต ที่หลงกับแม่ มาอยู่กับครอบครัว ยามาดะ ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งที่ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง
ครอบครัวยามาดะ ประกอบไปได้วย พ่อ ที่เป็นนักสร้างสรรค์โฆษณา แม่ ที่เป็นแม่บ้าน และ โยเฮ ลูกชายตัวเล็ก ๆ อายุ 4 ขวบ ของทั้งคู่
ที่เป็นเพื่อนเล่นของจี้ จี้มีนิสัยชอบกินและนอน และเล่นกับโยเฮหรือของใช้ในบ้านต่าง ๆ กลัวฟ้าผ่า, สุนัขหรือแมวตัวใหญ่กว่า



ที่มา Natalie

SICL ประกาศลิขสิทธิ์หนังสือ "One Piece Strong Words" [8 Jul 2017]

Siam Inter Comics Light ขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า ผลงานดังต่อไปนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์ในการจัดพิมพ์และจัดจำหน่าย
แต่ เพียงผู้เดียวในประเทศไทย หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์ในการจัดพิมพ์จัดจำหน่าย หรือให้เช่าหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

=================================================

One Piece Strong Words

เรื่องราวของ “สมบัติที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก” หรือ “วันพีซ” นั้นได้กล่าวถึงมังกี้ D ลูฟี่ ชายผู้ต้องการที่จะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด
เขาได้พบกับพวกพ้องและศัตรูที่แข็งแกร่งมากมาย พร้อมกับมุ่งหน้าเข้าสู่ “แกรนด์ไลน์” เพื่อไขว่คว้า “วันพีซ”

ในขณะที่ภายในเล่มนี้จะเน้นไปที่เรื่องของ “การเดินทาง”, “การต่อสู้”. “การเตรียมใจ”, “ภูมิปัญญา” และ “การลาจาก”
ซึ่งภายในการ์ตูน ONE PIECE นั้น เต็มไปด้วยคำพูดดีๆ เหล่านี้มากมาย ทั้งคำพูดที่คอยเป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง
หรือคำพูดที่คอยค้ำจุนผองเพื่อน คำพูดอันแข็งแกร่งเหล่านั้น คือสิ่งที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก

รูปภาพ
รูปภาพ

=================================================
ที่มา fb Siam Inter Comics Light

ทีวีอนิเม การเดินทางของคิโนะ ฉบับใหม่ ประกาศรายชื่อนักพากย์เพิ่มเติมอีก 5 คน

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของทีวีอนิเม การเดินทางของคิโนะ the Beautiful World (Kino no Tabi) ฉบับใหม่ หรือ
Kino no Tabi - the Beautiful World- the Animated Series ที่มีกำหนดออกอากาศที่ญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2017
ได้ประกาศรายชื่อนักพากย์เพิ่มเติมอีก 5 คนที่มารับบทเป็น Shizu, Riku, Ti, Shishou และ Aibou



รายชื่อนักพากย์เพิ่มเติม

Yuichiro Umehara (Tonbo Murase - Kabukibu!) พากย์เป็น Shizu (เดิมพากย์โดย Takashi Irie)



Kenichirou Matsuda (Vainney Halter - Clockwork Planet) พากย์เป็น Riku (เดิมพากย์โดย Houchu Ohtsuka)



Ayane Sakura (Ochaco Uraraka - My Hero Academia) พากย์เป็น Ti (เดิมพากย์โดย Mamiko Noto)



Lynn (Fuuka Akitsuki - Fuuka) พากย์เป็น Shishou (เดิมพากย์โดย Junko Midori)



Kazuyuki Okitsu (Kazuya Nachi - Fuuka) พากย์เป็น Aibou (เดิมพากย์โดย Susumu Chiba)



รายชื่อนักพากย์ที่เคยประกาศไปแล้ว

Aoi Yuuki (Yoshiko Hanabatake - Aho-Girl) พากย์เป็น Kino (เดิมพากย์โดย Ai Maeda)



Soma Saito (Tadashi Yamaguchi - Haikyuu!!) พากย์เป็น Hermes (เดิมพากย์โดย Ryuji Aigase)



รายชื่อทีมงานหลักและเว็บไซต์

- กำกับโดย Tomohisa Taguchi (Sousei no Onmyouji)
- ดูแลเนื้อเรื่องโดย Yukie Sugawara (Overlord)
- ออกแบบตัวละครฉบับอนิเมโดย Ryoko Amisaki (Danganronpa 3: The End of Kibougamine Gakuen - Mirai Hen)
- ผลิตอนิเมโดย EGG FIRM
- สตูดิโอ Lerche
- เว็บไซต์ http://www.kinonotabi-anime.com/
- ทวิตเตอร์ https://twitter.com/kinonotabianime

อ.Keiichi Sigsawa เขียนไลท์โนเวลเรื่อง การเดินทางของคิโนะ ลงพิมพ์ในนิตยสาร Dengeki HP ในปี 2000 (ปิดตัวในเดือน ต.ค. 2007)
แล้วได้ย้ายมาลงพิมพ์ต่อใน Dengeki Bunko Magazine โดยได้ร่วมงานกับ อ.Kouhaku Kuroboshi ที่มารับหน้าที่วาดภาพประกอบให้
ไลท์โนเวลชุดนี้ออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว 20 เล่ม (ออกวางแผงในญี่ปุ่นไปเมื่อ 20 ต.ค. 2016) ยังไม่จบ ยังเคยได้นำไปดัดแปลงเป็น
Drama CD ซึ่งเปิดให้สั่งซื้อผ่านใบสั่งซื้อที่มาพร้อมกับนิตยสาร Dengeki HP ที่ได้นักพากย์ Aya Hisakawa มารับบทเป็น Kino และ
Junko Noda มารับบทเป็น Hermes แล้วยังมีการเขียนเป็นไลท์โนเวลภาคแยกในชื่อว่า Gakuen Kino ตีพิมพ์กับ Dengeki Bunko
เช่นเดียวกับภาคหลัก ออกวางแผงในญี่ปุ่น 5 เล่ม ส่วนภาพประกอบก็ยังเป็นผู้วาดภาพประกอบคนเดิมจากไลท์โนเวลภาคหลัก

การเดินทางของคิโนะ: "งั้น ทำไมคิโนะถึงยังเดินทางเรื่อยไปล่ะ"
"บางครั้งฉันก็นึกสงสัยว่าตัวเองเป็นแค่เจ้าเปี๊ยกโง่เง่าที่แสนจะไม่ได้เรื่อง
เป็นแค่มนุษย์แสนโสโครกหรือเปล่า ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
แต่บางครั้งจะรู้สึกแบบนั้น อดคิดแบบนั้นไม่ได้... และทุกครั้งที่คิดเช่นนั้น
ฉันจะรู้สึกว่า สิ่งอื่นอย่างเช่นโลก หรือการใช้ชีวิตของคนอื่นล้วนงดงามและเป็นสิ่งวิเศษ
ฉันรักมันมาก... และอยากรู้จักสิ่งเหล่านั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ฉันจึงเดินทางเรื่อยไปยังไงล่ะ"

— เรื่องราวการเดินทางของมนุษย์นาม คิโนะ กับรถสองล้อพูดได้นามเฮอร์เมส ซึ่งร้อยเรียงในรูปแบบเรื่องสั้นต่อเนื่อง

Gakuen Kino: สาวน้อยในชุดนักเรียนกะลาสี นามคิโนะ ปกติแล้วเธอเป็นนักเรียนธรรมดาคนหนึ่งที่มีสายคล้องมือถือพูดได้นาม เฮอร์เมส
เป็น เพื่อนคู่ใจ แต่ยามที่มี "ปีศาจ" ปรากฏกายขึ้น เธอจะแปลงร่างเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรม "สาวน้อยปริศนาผู้งดงาม กันไฟเตอร์ไรเดอร์ Kino"



สตูดิโอ A.C.G.T ได้นำไลท์โนเวลเรื่อง การเดินทางของคิโนะ ไปดัดแปลง เป็นทีวีอนิเม ความยาว 13 ตอนจบ ในปี 2003,
OVA ตอน Tou no Kuni นับเป็นตอน 0 ของทีวีอนิเมในปี 2005, ภาพยนตร์อนิเม Kino no Tabi: Nanika wo Suru Tame ni –life goes on.–
(บทนำ-บทส่งท้าย เล่ม 7) ในปี 2005 และภาพยนตร์อนิเม Kino no Tabi: Byouki no Kuni -For You- ในปี 2007 (บทที่ 10 เล่ม 5)
แต่เปลี่ยนสตูดิโอที่ผลิตเป็น SHAFT สำหรับบทนำได้นักแสดง Ai Maeda มารับบทเป็น Kino และนักพากย์ Ryuji Aigase มารับบทเป็น Hermes

ทีวีอนิเม, OVA, ภาพยนตร์อนิเม ภาคสอง For You รับหน้าที่กำกับโดย Ryuutarou Nakamura (เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน
Pancreatic Cancer ไปเมื่อ 29 มิ.ย. 2013) แต่ภาพยนตร์อนิเม ภาคแรก life goes on รับหน้าที่กำกับโดย Takashi Watanabe

เพลงประกอบอนิเม การเดินทางของคิโนะ
- All The Way ขับร้องโดย Mikuni Shimokawa (Opening Theme ทีวีอนิเม)
- the Beautiful World ขับร้องโดย Ai Maeda (Ending Theme ทีวีอนิเม)
- Hajimari no Hi ขับร้องโดย Ai Maeda (Ending Theme ภาพยนตร์อนิเม ภาค life goes on)
- Bird ขับร้องโดย Mikuni Shimokawa (Ending Theme ภาพยนตร์อนิเม ภาค For You)

อ.Iruka Shiomiya ผู้วาด นักฆ่าตระกูลโหด (Zerozaki Soushiki no Ningen Shiken) ได้นำไลท์โนเวลเรื่อง การเดินทางของคิโนะ
ไปเขียนเป็นฉบับการ์ตูน เริ่มลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Shonen Magazine Edge ฉบับเดือน เม.ย. 2017 (17 มี.ค. 2017)
นับว่าเป็นครั้งแรกที่ไลท์โนเวลเรื่องนี้ได้นำมาเขียนเป็นฉบับการ์ตูน และฉบับรวมเล่ม 1 มีกำหนดออกวางแผงในญี่ปุ่น 14 ก.ค. 2017



ที่มา kinonotabi-anime , shio_mid

ภาพยนตร์ JOJO ล่าข้ามศตวรรษ Part 4 ปล่อยตัวอย่างสาม โชว์แสดนด์ Crazy Diamond

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของภาพยนตร์ JoJo's Bizarre Adventure: Diamond Is Unbreakable Chapter I ดัดแปลงจากภาคที่ 4
ของหนังสือการ์ตูนเรื่อง JOJO ล่าข้ามศควรรษ ผลงานของ อ.Hirohiko Araki ผลงานกำกับโดย Takashi Miike ได้ปล่อยตัวอย่างที่สาม
ซึ่งเน้นไปที่ตัว Josuke Higashikata (แสดงโดย Kento Yamazaki) ซึ่งได้มีการโชว์แสดนด์ Crazy Diamond ให้เห็นกันอย่างชัดเจน
อีกทั้งภายในตัวอย่างนี้ยังเผยให้เห็นแสตนด์อีกหลายตัว Aqua Necklace ของ Angelo (แสดงโดย Takayuki Yamada), The Hand
ของ Okuyasu Nijimura (แสดงโดย Mackenyu) และ Bad Company ของ Keicho Nijimura (แสดงโดย Masaki Okada)




ภาพยนตร์ JoJo's Bizarre Adventure: Diamond Is Unbreakable Chapter I ได้รับเชิญให้ไปฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ NIFFF 2017
จัดที่ Switzerland ในวันอาทิตย์ที่ 2 ก.ค. 2017 ซึ่งยืนยันแน่นอนแล้วว่าจะมีนักแสดงหนุ่ม Kento Yamazaki และผู้กำกับ Takashi Miike
ไปร่วมปรากฎตัวภายในงานนี้ด้วย แล้วยังได้รับเชิญไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์ Fantasia International Film Festival จัดที่เมือง Montreal
ประเทศ Canada ตั้งแต่ 13 ก.ค. - 2 ส.ค. 2017 ก่อนเข้าฉายจริงในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น 4 ส.ค. 2017

รายชื่อนักแสดง

Josuke Higashikata แสดงโดย Kento Yamazaki
(Hotaro Oreki - ปริศนาความทรงจำ Hyouka, Yuki Hase - เธอกับฉันเพื่อนกันหนึ่งสัปดาห์ Isshukan Friends)



Koichi Hirose แสดงโดย Ryunosuke Kamiki
(Rei Kiriyama - ตราบวันฟ้าใส Sangatsu no Lion, Taki Tachibana - หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ Kimi no Na wa.)



Yukako Yamagishi แสดงโดย Nana Komatsu
(Emi Fukuju - พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน Boku wa Ashita, Kinou no Kimi to Date Suru)



Keicho Nijimura แสดงโดย Masaki Okada (Ikko Aoki - The Top Secret ผ่าแผนลวงล่าปริศนา)



Okuyasu Nijimura แสดงโดย Mackenyu (Arata Wataya - จิฮายะ Chihayafuru)



Anjuro Katagiri หรือ Angelo แสดงโดย Takayuki Yamada (Ichiro Hiruma - Terra Formars ภารกิจล้างพันธุ์นรก)



Jotaro Kujo แสดงโดย Yusuke Iseya (Aoshi Shinomori - ซามูไรพเนจร Rurouni Kenshin)



Jun Kunimura (Kubal - ผ่าพิภพไททัน Attack on Titan) รับบทเป็น Ryohei Higashikata
Arisa Mizuki (Sakurako Kujou - มีศพอยู่ใต้ฝ่าเท้าคุณซากุระโกะ) รับบทเป็น Tomoko Higashikata



อ.Hirohiko Araki เริ่มเขียน JOJO ล่าข้ามศตวรรษ ภาค 4 ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ Shonen Jump ในปี 1992-1995
โดยฉบับรวมเล่มฉบับพิมพ์ครั้งแรกของภาค 4 จะเริ่มต้นที่เล่ม 29 ไปจนถึงเล่มที่ 47 และสตูดิโอ David Production ที่เคยนำสามภาคแรก
ของการ์ตูนชุดนี้ไปทำเป็นทีวีอนิเมมาแล้วในปี 2012-2015 (ภาค 1-2 ทั้งหมด 26 ตอนจบ และภาค 3 แบ่งเป็นสองซีซั่น ทั้งหมด 48 ตอนจบ)
ได้นำภาค 4 ของการ์ตูนชุดนี้ไปทำเป็นทีวีอนิเมอีกเช่นเดิม ความยาว 39 ตอนจบ อากาศตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. จนถึง 23 ธ.ค. 2016
แล้วยังมี OVA ตอน Kishibe Rohan wa Ugokanai สำหรับผู้ที่ซื้อ BD/DVD อนิเม JOJO ล่าข้ามศตวรรษ ภาค 4 ยกเซ็ต 13 แผ่น

ปี 1999 ที่ญี่ปุ่น โจทาโร่เดินทางมายังเมืองโมริโอเพื่อจุดประสงค์สองประการ ประการแรกตามหา ฮิงาชิคาตะ โจสุเกะ
บุตรนอกสมรสของโจเซฟที่แอบมีก่อนที่จะออกเดินทางไปอียิปต์ไม่กี่ปีและมาแจ้งว่าได้รับสิทธิ์ได้มรดกของตระกูลโจสตาร์ 1/3
ประการ ที่สองคือเดินทางมาสืบข่าวเรื่อง "ธนูกับคันศร" อุปกรณ์ดึงพลังสแตนด์ที่แม่เฒ่าเอ็นย่าใช้หาผู้ที่มีพลังสแตนด์เพื่อไปเป็น สมุนของดีโอ
โดยที่โจทาโร่ได้ข้อมูลมาจากมูลนิธิ SPW ว่า "ธนูกับคันศร" นี้อยู่ที่เมืองโมริโอ โจสุเกะพบว่าธนูและคันศรถูกเก็บไว้กับสองพี่น้องตระกูลนิจิมูระ
ซึ่งพยายามใช้มันยิงใส่ผู้คนในเมืองเพื่อเหตุผลหาผู้ใช้สแตนด์ที่สามารถช่วยพ่อของตนจากการถูกคำสาปของดีโอ
จนทำให้มีผู้ใช้สแตนด์เกิดขึ้นมากมายทั้งดีและร้าย บางคนได้เข้าร่วมเป็นพรรคพวกกับโจสุเกะ
ส่วนผู้ใช้สแตนด์ที่ชั่วร้ายพวกโจสุเกะก็ร่วมมือกันต่อสู้เพื่อรักษาความสงบสุขของเมืองที่พวกตนอยู่



ที่มา JOJO Movie

Doraemon Movie 38 ปล่อยตัวอย่างแรกออกมาแล้ว

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของอนิเม Doraemon ได้ปล่อยตัวอย่างแรกของ Doraemon: Nobita no Takarajima
(Doraemon the Movie: Nobita's Treasure Island) ภาพยนตร์อนิเมของโดราเอมอน ภาคที่ 38 มีกำหนดเข้าฉาย
ในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในเดือน มี.ค. 2018 ดัดแปลงจากวรรณกรรมคลาสสิคเรื่อง Treasure Island เกาะมหาสมบัติ
ผลงานของนักเขียนชาวสก๊อตแลนด์ Robert Louis Stevenson โดยได้ Kazuaki Imai มารับหน้าที่กำกับ
ภาพยนตร์อนิเมโดราเอมอนเป็นครั้งแรก และ Genki Kawamura (Kimi no Na wa.) มาเขียนบทให้




ที่มา doraeiga

ภาพยนตร์อนิเม Eureka Seven Hi-Evolution ภาคแรก ปล่อยตัวอย่าง ที่มีพรีวิวเพลงประกอบโดย Hiroya Ozaki พร้อมโปสเตอร์ใหม่

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของภาพยนตร์อนิเมไตรภาค Psalms of Planets Eureka Seven Hi-Evolution
ได้เผยโปสเตอร์ภาพยนตร์อนิเมภาคแรกแบบใหม่ ที่มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในวันที่ 16 ก.ย. 2017
พร้อมกับปล่อยตัวอย่าง 90 วินาที ที่มีพรีวิว Glory Days ขับร้องโดย Hiroya Ozaki ซึ่งนำมาใช้เป็นเพลงประกอบด้วย





รายชื่อนักพากย์

Renton Thurston พากย์โดย Yuko Sanpei (Boruto Uzumaki - Boruto: Naruto Next Generations)



Eureka พากย์โดย Kaori Nazuka (Miyu Edelfelt - Fate/kaleid liner Prisma Illya)



Dewey Novak พากย์โดย Kouji Tsujitani (Yakumo Fujii - 3x3 Eyes)



Holland Novak พากย์โดย Toshiyuki Morikawa (Minato Namikaze - Naruto)
แทนนักพากย์ Keiji Fujiwara ที่หยุดพักงานชั่วคราวเพื่อไปรักษาอาการป่วย



Talho Yuuki พากย์โดย Michiko Neya (Melissa Mao - Full Metal Panic!)



Charles Beams พากย์โดย Juurouta Kosugi (Lantis - Magic Knight Rayearth)



Ray Beams พากย์โดย Aya Hisakawa (Skuld - Oh! My Goddess)



Adroc Thurston พ่อของ Renton Thurston พากย์โดย Tohru Furuya (Amuro Ray - Mobile Suit Gundam)



Masahiko Minami ประธานและโปรดิวเซอร์ของสตูดิโอ BONES ได้เปิดเผยในงานอีเวนท์ Anime Boston 2017 (31 มี.ค. - 2 เม.ย. 2017)
ว่า ภาพยนตร์อนิเมไตรภาค Psalms of Planets Eureka Seven Hi-Evolution ที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ First Summer Love ซึ่งเป็นช่วง 10 ปี
ก่อน หน้าของทีวีอนิเม ซึ่งเคยได้มีการบอกใบ้เอาไว้ก่อนหน้านี้แต่ไม่ได้ลงลึกไปถึงรายละเอียด แต่โดยรวมจะเดินตามเส้นเรื่องหลักของทีวีอนิเม
เสริมด้วยฉากใหม่ บทพูดใหม่ ปรับปรุงฟุตเตจใหม่ และจะมีตอนจบใหม่ที่ต่างไปจากฉบับทีวีอนิเมด้วย โดยมีแผนจะนำภาพยนตร์อนิเมชุดนี้
ไปเปิดตัวในอีก 9 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และไทย
นอกจากนี้ยังมีแผนจัดฉายภาพยนตร์อนิเมชุดนี้พร้อมๆกันในอีกหลายประเทศ สำหรับภาคสองและสาม มีกำหนดเข้าฉายในปี 2018 และปี 2019





อีกทั้ง Masahiko Minami ยังได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวละครและเครื่องจักรกลต่างๆ เช่น Hammer Head เครื่องจักรกลใหม่
ที่มาปรากฎตัวในช่วง First Summer Love ออกแบบโดย Yutaka Izubuchi, Devil Fish หุ่นที่ Holland Novak เคยได้ใช้ในทีวีอนิเม
ก็จะกลับมาอีกครั้งในรุ่นสีทอง, Eureka มาปรากฎตัวในชุดนักบิน (Pilot Suit) และ Adrock พ่อของ Renton Thurston ที่เคยได้เห็น
เพียงแค่ภาพถ่ายในฉบับทีวีอนิเม ก็จะมาปรากฎตัวให้เห็นอย่างเต็มที่ในภาพยนตร์อนิเมไตรภาคชุดนี้

นอกจากนี้เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของภาพยนตร์อนิเมไตรภาค ก็ได้เปิดเผยดีไซน์ของ Nirvash ในช่วง First Summer Love ด้วย



อิล็คทรอนิคมิวสิคดูโอชาวเยอรมนี Hardfloor (Oliver Bondzio กับ Ramon Zenker) ก็มาร่วมทำเพลงที่ใช้เป็น Insert Song โดยก่อนหน้านี้
ในทีวีอนิเม Eureka Seven ก็เคยได้ใช้แทร็ค Acperience มาแล้ว รวมถึงอีกหลายศิลปินเพลงแนวอิล็คทรอนิคมิวสิค กับ แนวเฮาส์มิวสิค



ทีมงานส่วนใหญ่ในภาพยนตร์อนิเมไตรภาค Eureka Seven Hi-Evolution ก็เคยร่วมงานกันมาแล้วในทีวีอนิเม Eureka Seven อาทิ
Tomoki Kyoda (หัวหน้าทีมกำกับ), Dai Sato (เขียนบท), Kenichi Yoshida (ออกแบบตัวละคร), Shoji Kawamori (ออกแบบเครื่องจักรกล),
Kazutaka Miyatake (ออกแบบแนวคิด), Shingo Takeba-Yutaka Izubuchi-Shigeto Koyama (ออกแบบชิ้นงาน), Ayumi Kurashima
(กำกับการเคลื่อนไหวตัวละคร), Yasushi Muraki (กำกับเทคนิคพิเศษ), Shingo Abe (กำกับการเคลื่อนไหวของเครื่องจักรกล),
Hideki Kakita-Shuichi Kaneko-Ken Ootsuka (นักอนิเมชั่น), Kazuo Nagai (กำกับฉากหลัง), Nobuko Mizuta (ออกแบบสี),
Shunya Kimura (กำกับภาพ), Kazuhiro Wakabayashi (กำกับเสียง), Naoki Satou (ดนตรีประกอบ)

สำหรับทีมงานใหม่ที่เข้ามาร่วมงานเพิ่มเติมก็มี Masatsugu Saitou (ออกแบบชิ้นงาน), Kumiko Sakamoto (ตัดต่อ), Yuushi Honjou
(ผู้ช่วยกำกับฉากหลัง), Shigeru Fujita (กำกับการเคลื่อนไหวตัวละคร), Kenta Yokoya-Nobuaki Nagano-Shiori Kudo (นักอนิเมชั่น)
ในบรรดารายชื่อผู้ที่เข้ามาเพิ่มเติมเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานมีอยู่ 4 คนหลังที่ไม่เคยได้ร่วมทำทีวีอนิเม Eureka Seven: Astral Ocean

เรียงจากซ้่ายไปขวา Kenichi Yoshida, Tomoki Kyoda และ Dai Sato



สตูดิโอ BONES สร้างออริจินอลอนิเมเรื่อง Eureka Seven ความยาว 50 ตอนจบ ออกอากาศที่ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. 2005 จนถึงวันที่
2 เม.ย. 2006 จากนั้นได้มีการสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเม Eureka Seven - good night, sleep tight, young lovers ตัวละครเป็นชุดเดียวกัน
กับ ฉบับทีวีอนิเม แต่เล่าเรื่องที่ต่างออกไปจากเดิม เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นเมื่อ 25 เม.ย. 2009 และสร้างทีวีอนิเมภาคต่อใช้ชื่อว่า
Eureka Seven: Astral Ocean ความยาว 24 ตอนจบ ออกอากาศที่ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. 2012 จนถึงวันที่ 20 พ.ย. 2012 กับ
Final Episode: One More Time -lord don't slow me down- มี 4 Part อัพโหลดให้ชมผ่านเว็บไซต์บริษัท Sammy

อนิเม Eureka Seven Series เคยได้รับรางวัลมาแล้วหลายรางวัล
- ทีวีอนิเมยอดเยี่ยม จาก Tokyo International Anime Fair ครั้งที่ 5 ในปี 2006
- นักเขียนบทยอดเยี่ยม (Dai Sato) จาก Tokyo International Anime Fair ครั้งที่ 5 ในปี 2006
- ออกแบบตัวละครยอดเยี่ยม (Kenichi Yoshida) จาก Tokyo International Anime Fair ครั้งที่ 5 ในปี 2006
- รางวัลยอดเยี่ยมส่วนบุคคล (Kenichi Yoshida) จาก Animation Kobe Awards ครั้งที่ 10 ในปี 2005
- Domestic Digital Contents จาก Digital Content Grand Prix ครั้งที่ 20 ในปี 2006
- ทีวีอนิเมยอดเยี่ยม จาก SPJA Awards 2006
- ตัวละครหญิงยอดเยี่ยม (Euraka) จาก SPJA Awards 2006
- Best DVD Series of the Year จากนิตยสาร Anime Insider ในปี 2006
- อนิเมที่คณะกรรมการผู้ตัดสินแนะนำให้ดู จาก Japan Media Arts Festival Awards ครั้งที่ 17 ในปี 2013

อนิเม Eureka Seven ยังได้มีการนำไปเขียนเป็นฉบับการ์ตูนอีกหลายภาค รวมถึงนิยาย ได้แก่
- Psalms of Planets Eureka Seven by KATAOKA Jinsei & KONDOU Kazuma (6 เล่มจบ)
- Psalms of Planets Eureka Seven Gravity Boys & Lifting Girl by KIZUKI Miki (2 เล่มจบ)
- Psalms of Planets Eureka Seven: New Order by MIYAMA Fugin (2 เล่มจบ)
- Eureka Seven: AO by KATOU Yuuichi (5 เล่มจบ)
- Eureka Seven AO ~Save A Prayer~ by FUDOU Ran (2 เล่มจบ)
- Eureka Seven nAnO by Katsuwo (เล่มเดียวจบ)
- นิยาย Psalms of Planets Eureka Seven เขียนโดย Tomonori Sugihara & ภาพประกอบโดย Robin Kishiwada (4 เล่มจบ)



ที่มา eurekaseven

Karakai Jouzu no Takagi-san ประกาศทำ TV Anime ออกอากาศที่ญี่ปุ่นภายในปี 2018

นิตยสารการ์ตูน Gessan ฉบับเดือน ส.ค. 2017 (12 ก.ค. 2017) ได้ประกาศว่าการ์ตูนเรื่อง Karakai Jouzu no Takagi-san
ผลงานของ อ.Souichirou Yamamoto จะได้นำไปดัดแปลงเป็น TV Anime ออกอากาศที่ญี่ปุ่นภายในปี 2018





อ.Souichirou Yamamoto เขียนการ์ตูนเรื่อง Karakai Jouzu no Takagi-san ลงพิมพ์ใน Gessan Mini เป็นบุ๊คเล็ตที่แถมมาพร้อมกับ
นิตยสารการ์ตูน Gessan ฉบับที่ออกวางแผงในเดือน มิ.ย. 2012 ต่อมาเมื่อผลงานอีกเรื่อง Fudatsuki no Kyoko-chan ลงพิมพ์ตอนจบ
ในนิตยสารการ์ตูน Gessan ฉบับที่ออกวางแผงในเดือน มิ.ย. 2016 ก็ได้ย้ายผลงานเรื่อง Karakai Jouzu no Takagi-san จากเล่ม Mini
มาลงในเล่มหลักในเดือน ก.ค. 2016 มีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่น 5 เล่ม และเล่ม 6 มีกำหนดออกวางแผงในญี่ปุ่น 10 ส.ค. 2017
ซึ่งถ้าซื้อฉบับรวมเล่ม 6 แบบ Limited Edition ก็จะมีฟิกเกอร์ Takagi มาพร้อมกันด้วย

การ์ตูนเรื่อง Karakai Jouzu no Takagi-san ได้รับเลือกให้เป็นอันดับที่ 1 การ์ตูนน่าอ่าน ประจำปี 2017 แนะนำโดยร้านหนังสือในญี่ปุ่น
และเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยมจาก Manga Taisho Award ครั้งที่ 10 โดยก่อนที่จะมีประกาศทำเป็นทีวีอนิเม
ผู้ที่เข้าใช้งานในเว็บไซต์ Anime! Anime! ก็อยากจะเห็นการ์ตูนเรื่องนี้ (กลุ่มผลงานที่ยังคงเขียนต่อเนื่อง) ได้นำไปทำเป็นอนิเมมากที่สุด

ทาคากิซังเธอคนนี้นั่งอยู่โต๊ะติดกับผมเเละชอบแกล้งผมอยู่เสมอ
แต่คุณจะได้เห็นในวันนี้เป็นวันที่ผมจะแกล้งเธอกลับและทำให้เธอขำไม่ออกให้ดู !!



ที่มา Otakomu