วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ถึงท่านพี่จะเป็นแรงก์ F แต่ก็จะครองโรงเรียนที่ตัดสินทุกอย่างด้วยเกมสินะคะ? มียอดพิมพ์ทั้งซีรีย์ในญี่ปุ่น 4 แสนเล่ม

ไลท์โนเวล ถึงท่านพี่จะเป็นแรงก์ F แต่ก็จะครองโรงเรียนที่ตัดสินทุกอย่างด้วยเกมสินะคะ? (Jishou F-Rank no Oniisama ga Game de
Hyouka sareru Gakuen no Chouten ni Kunrin suru Sou desu yo?) เล่ม 7 ออกวางแผงในญี่ปุ่นไปเมื่อ 24 ส.ค. 2019 โดยสายคาดปก
ที่มาพร้อมกับไลท์โนเวลเล่มนี้เปิดเผยให้ทราบว่ามียอดพิมพ์ทั้งไลท์โนเวลและหนังสือการ์ตูนรวมกันในญี่ปุ่น 400,000 เล่ม



อ.Ghost Mikawa เขียนไลท์โนเวลเรื่อง ถึงท่านพี่จะเป็นแรงก์ F แต่ก็จะครองโรงเรียนที่ตัดสินทุกอย่างด้วยเกมสินะคะ? ตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม
กับทาง MF Bunko J โดยได้มาร่วมงานกับ อ.Neko Metal (วาดภาพประกอบไลท์โนเวล เซียนนีทพิชิตต่างโลก Isekai nara NEET ga
Hataraku to Omotta?) ซึ่งมารับหน้าที่วาดภาพประกอบให้กับไลท์โนเวลเรื่องนี้ ออกวางแผงไลท์โนเวลเล่มแรกในญี่ปุ่น 25 เม.ย. 2017
และ อ.sorani นำไลท์โนเวลเรื่องนี้ไปเขียนเป็นฉบับการ์ตูน เริ่มลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Comic Alive ฉบับเดือน พ.ค. 2018
(27 มี.ค. 2018) มีภาพสีเปิดตอน ปัจจุบันฉบับการ์ตูนมีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว 2 เล่ม ยังไม่จบ

โรงเรียนชิชิโอ โรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งรวบรวมไว้เฉพาะบุคคลที่เลิศล้ำในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การกีฬา
และชาติตระกูล แต่อันที่จริงแล้วมันคือโรงเรียนแนวปลาใหญ่กินปลาเล็กที่ตัดสินทุกอย่างด้วยผลลัพธ์ของการเล่นเกมนั่นเอง
แดนมิคสัญญีซึ่งมีเพียงผู้แข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด—มีเพียงราชสีห์เท่านั้นที่จะรอดชีวิต ไซโจ กุเรน ตัวเอกผู้ทิ้งตำนานไร้พ่ายเอาไว้
ในการเล่นเกมแห่งโลกเบื้องหลังเพราะอยากใช้ชีวิตแบบคนปกติที่ไร้ซึ่งความวุ่นวายใด ๆ เขาจึงออมมือตอนสอบเข้าจนได้รับ
การประเมินให้อยู่ในแรงก์ F ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตามแผนการของเขา แต่สถานการณ์ก็กลับตาลปัตรในทันที เมื่อเขาได้พบกับ ไซโจ คาเรน
น้องสาวร่วมสายเลือดผู้รักพี่ชาย หมดหัวใจ และเมื่อ 'เจตนาร้าย' ของโรงเรียนตรงเข้าเล่นงานคาเรน กุเรนจึงต้องแสดงพลังที่แท้จริงออกมา—!



ที่มา kadokawa anime , animatesanomiya

ขอให้โชคดีมีชัยในโลกแฟนตาซี! มีไลท์โนเวลเล่มพิเศษมอบให้ผู้ที่เข้าไปชมภาพยนตร์อนิเมภาค Kurenai Densetsu

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของภาพยนตร์อนิเม Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo! Kurenai Densetsu ลงประกาศว่าผู้ที่ซื้อบัตรเข้าไปชม
ภาพยนตร์อนิเมเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. 2019 จนถึงวันที่ 5 ก.ย. 2019 จะได้ไลท์โนเวลเล่มพิเศษ Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo!
Kouma no Sato-hen (ซ้ายมือในภาพด้านล่าง) และผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมภาพยนตร์อนิเมเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. 2019 จนถึงวันที่ 12 ก.ย. 2019
จะได้ไลท์โนเวลเล่มพิเศษ Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo! Accel no Machi-hen (ขวามือในภาพด้านล่าง)



Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo! Kurenai Densetsu ภาพยนตร์อนิเม มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันที่ 30 ส.ค. 2019
อ้างอิงเรื่องราวจากไลท์โนเวล ให้โชคดีมีชัยในโลกแฟนตาซี! (Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo!) ผลงานของ อ.Natsume Akatsuki
เล่ม 5 โดยยังคงได้ Takaomi Kanasaki กลับมารับหน้าที่กำกับ, Makoto Uezu กลับมารับหน้าที่เขียนบท, Masato Kouda มาทำเพลงประกอบ,
Koichi Kikuta กลับมารับหน้าที่ออกแบบตัวละครฉบับอนิเม แต่มีการเปลี่ยนแปลงสตูดิโอที่ผลิตอนิเมจากเดิม Studio DEEN ที่เคยสร้างทีวีอนิเม
ซีซั่น 1-2 ไปเป็นสตูดิโอ J.C. Staff ที่มารับช่วงนำไปผลิตเป็นภาพยนตร์อนิเม สำหรับบรรดานักพากย์หลักชุดเดิมก็กลับมารวมตัวกันอย่างครบถ้วน





นักร้องสาว Machico ซึ่งเคยขับร้อง fantastic dreamer และ TOMORROW ซึ่งนำไปใช๋เป็น Opening Theme (OP) ให้กับทีวีอนิเม ซีซั่น 1-2
ซึ่งเพลงใหม่ของเธอชื่อว่า 1mm Symphony ที่มีกำหนดออกวางจำหน่ายซีดีซิงเกิ้ลที่ญี่ปุ่นในวันที่ 28 ส.ค. 2019 ก็เป็นอีกครั้งที่ได้นำมาใช้เป็น
เพลงประกอบให้กับฉบับภาพยนตร์อนิเมภาค Kurenai Densetsu และสามนักพากย์หญิง Sora Amamiya (พากย์เป็น Aqua), Rie Takahashi
(พากย์เป็น Megumin), Ai Kayano (พากย์เป็น Darkness) ซึ่งได้เคยร่วมกันขับร้องเพลง Chiisana Boukensha และ Oie ni Kaeritai ที่ใช้เป็น
Ending Theme (ED) ให้กับทีวีอนิเม ซีซั่น 1-2 ก็กลับมาร่วมกันขับร้องเพลงใหม่ My Home Town ที่มีกำหนดออกวางจำหน่ายซีดีซิงเกิ้ลที่ญี่ปุ่น
ในวันที่ 4 ก.ย. 2019 ก็ได้นำมาใช้เป็น ED ให้กับภาพยนตร์อนิเมภาค Kurenai Densetsu



ที่มา konosuba , konosubaanime 1 , konosubaanime 2

อ.Daisuke Higuchi กลับมาเขียน Whistle! ไอ้หนูแข้งทอง ตอนพิเศษ ลงใน Shonen Jump+

อ.Daisuke Higuchi เขียนการ์ตูนเรื่อง Whistle! ไอ้หนูแข้งทอง ตอนพิเศษ Extra Stage Shuppatsu ภาพสีทั้งตอน มาลงให้อ่านในเว็บไซต์
Shonen Jump+ ไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2019 โดยการ์ตูนตอนพิเศษตอนนี้ก็เกิดมาจากการเปิดให้แฟนๆผลงานร่วมโหวตภายในงานนิทรรศการ
You Got Your Wish ร่วมฉลองครบ 20 ปีให้กับการ์ตูนเรื่องนี้ จัดที่ Arts Chiyoda 3331 ไปเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2018 จนถึงวันที่ 6 พ.ค. 2018
ซึ่งผลปรากฎว่าทีมฟุตบอลโรงเรียนซากุระโจซุย คว้าชัยชนะจากการโหวตในครั้งนี้ไป เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ คาซามัตซึริ โช กำลังจะเดินทางไป
ประเทศเยอรมนีเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ เพื่อนร่วมทีมฟุตบอลโรงเรียนซากุระโจซุยก็เลยมาร่วมกันจัดงานเลี้ยงอำลาให้กับเขา





อ.Daisuke Higuchi เขียนการ์ตูนเรื่อง Whistle! ไอ้หนูแข้งทอง มาลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Shonen Jump ฉบับที่ 13/1998
(9 มี.ค. 1998) จนกระทั่งลงพิมพ์ตอนอวสานในฉบับที่ 45/2002 (21 ต.ค. 2002) รวมเป็นฉบับรวมเล่มพิมพ์ครั้งแรกทั้งหมด 24 เล่มจบ
แล้วมีการกลับมาพิมพ์ใหม่อีกครั้งเป็น Bunko Edition ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นในปี 2006 ทั้งชุดมี 15 เล่มจบ สตูดิโอ Studio Comet นำไป
ดัดแปลงเป็นทีวีอนิเม ความยาว 39 ตอนจบ ออกอากาศที่ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 2005 จนถึงวันที่ 3 ก.พ. 2003 ซึ่งหลังจากเขียนจบ
ไปนาน 14 ปี ก็กลับมาเขียนภาคใหม่ใช้ชื่อว่า Whistle! W มาเริ่มลงให้อ่านตอนแรกในเว็บไซต์ Ura Sunday เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2016
แล้วยังมีให้อ่านในแอพลิเคชั่น Manga ONE ด้วย ปัจจุบันภาค W มีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว 4 เล่ม ยังไม่จบ แต่หยุดเขียน
ไปตั้งแต่เดือน เม.ย. 2019 ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาสุขภาพ

คาซามัตซึริ โช นักฟุตบอลจากรร.มุซาชิโนะโมริ ที่มีชื่อเสียงด้านฟุตบอล แต่ด้วยความที่เขาไม่ได้รับโอกาสให้ได้เป็นนักกีฬาตัวจริง
เขาจึงย้ายไปเรียนที่ รร.ซากุระโจซุย แทน เพื่อโอกาสเป็นนักฟุตบอลตัวจริง ถึงเขาจะรูปร่างเล็ก แต่เขาก็มีความพยายามตั้งใจสูง
ด้วยความพยายามของเขา ทำให้เขายกระดับไปเป็นนักฟุตบอลในตำแหน่งกองหน้าของทีมโรงเรียนได้สำเร็จ

ภาพปกหนังสือการ์ตูน Whistle! ไอ้หนูแข้งทอง Bunko Edition พิมพ์ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2006 ทั้งชุด 15 เล่มจบ



ภาพปกหนังสือการ์ตูน Whistle! W



ไม่เพียงแค่นั้น การ์ตูนเรื่อง Whistle! ไอ้หนูแข้งทอง ยังได้นำไปจัดแสดงในรูปแบบละครเวทีใช้ชื่อว่า Whistle! BREAK THROUGH
-Kabe wo Tsukiyabure- รับหน้าที่กำกับและเขียนบทละครเวทีโดย Mami Suzuki จัดแสดงที่ Theater 1010 โตเกียว ตั้งแต่วันที่
31 ส.ค. 2016 จนถึงวันที่ 8 ก.ย. 2016 ทั้งหมด 14 รอบ และออกวางจำหน่าย DVD ที่ญี่ปุ่นในวันที่ 25 มี.ค. 2017



ที่มา Shonen Jump+

ฤทธิ์ดาบไร้ปรานี อนิเมฉบับสมบูรณ์ ประกาศรายชื่อนักพากย์เพิมเติม 6 คน

Mugen no Juunin -Immortal- อนิเมฉบับสมบูรณ์ ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูน ฤทธิ์ดาบไร้ปรานี Blade of the Immortal (Mugen no Juunin)
ผลงานของ อ.Hiroaki Samura ซึ่งจะครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดตั้งแต่ต้นเรื่องจนกระทั่งจบบริบูรณ์ตามหนังสือการ์ตูนต้นฉบับ สตูดิโอ Liden Films
รับหน้าที่ผลิตเป็นอนิเม โดยได้ Hiroshi Hamasaki (Steins;Gate, orange) มารับหน้าที่กำกับอนิเม, Makoto Fukami (Berserk 2016-2017,
Psycho-Pass) มารับหน้าที่ดูแลเนื้อเรื่องอนิเม, Shingo Ogiso (ผู้กล้าแห่งอัสลัน Arslan Senki) มารับหน้าที่ออกแบบตัวละครฉบับอนิเม และ
Eiko Ishibashi รับหน้าที่ทำเพลงประกอบอนิเม มีแผนนำมาออกอากาศให้รับชมผ่านช่องทางสตรีมมิ่งของ Amazon Prime Video เริ่มตั้งแต่เดือน
ต.ค. 2019 เป็นต้นไป แต่ไม่ได้มีการแจ้งว่าอนิเมเรื่องนี้จะได้นำมาออกอากาศให้รับชมทางสถานีทีวีด้วยรึไม่ ล่าสุดเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ
อนิเมเรื่องนี้ได้ประกาศรายชื่อนักพากย์เพิ่มเติมอีก 6 คน ทีมารับบท Anotsu, Magatsu, Kuroi, Shizuma, Otono-Tachibana, Abayama



Nozomu Sasaki (Clef - Magic Knight Rayearth, Yusuke Urameshi - คนเก่งทะลุโลก Yu Yu Hakusho) พากย์เป็น Kagehisa Anotsu



Tatsuhisa Suzuki (Makoto Tachibana - Free!, Ranmaru Kurosaki - Uta no Prince Sama) พากย์เป็น Taito Magatsu



Eiji Hanawa (Jiren - Dragon Ball Super) พากย์เป็น Sabato Kuroi



Shunsuke Sakuya (Graham - Mobile Suit Gundam Thunderbolt, Ishikawa - Ghost in the Shell: Arise) พากย์เป็น Eiku Shizuma



Houko Kuwashima (Mitsuru Kagurazaka - 7SEEDS, Charlotte Pudding - One Piece) พากย์เป็น Makie Otono-Tachibana



Shinya Fukumatsu (Jun Sonoda - Wangan Midnight เร็วสุดขีด สปีดสุดขั้ว!, Durham Glaster - Black Cat) พากย์เป็น Sosuke Abayama



รายชื่อนักพากย์ที่ได้ประกาศไปแล้ว

Kenjiro Tsuda (Mikoto Suoh - K Project, Sadaharu Inui - The Prince of Tennis) พากย์เป็น Manji Masa



Ayane Sakura (Arisa Ayase - Love Live! School idol project, Ochaco Uraraka - My Hero Academia) พากย์เป็น Rin Asano



อ.Hiroaki Samura เขียนการ์ตูนเรื่อง ฤทธิ์ดาบไร้ปรานี Blade of the Immortal ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน Afternoon
ใน ปี 1993-2012 รวมเป็นฉบับรวมเล่มฉบับพิมพ์ครั้งแรกได้ทั้งหมด 30 เล่มจบ การ์ตูนเรื่องนี้ยังได้นำไปเขียนเป็นฉบับนิยายใช้ชื่อเรื่องว่า
Mugen no Juunin Ninjyuibun โดย อ.Junichi Ohsako (18 ก.ค. 2008) ต่อมาสตูดิโอ Bee Train ได้นำไปดัดแปลงเป็นทีวีอนิเม
ความยาว 13 ตอนจบ ในปลายปี 2008 ไม่เพียงเท่านั้นการ์ตูนเรื่องนี้ยังได้นำไปดัดแปลงเป็นละครเวที จัดแสดงที่ Space Zero Hall
กรุงโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 11-17 ก.พ. 2016 ซึ่งได้นักพากย์ Tomokazu Seki มารับบทเป็น Manji Masa เช่นเดียวกับในฉบับทีวีอนิเม

การ์ตูนเรื่อง ฤทธิ์ดาบไร้ปรานี Blade of the Immortal เคยได้รับรางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยมจาก Japan Media Arts Festival Awards
ครั้งที่ 1 ในปี 1997 โดยรับรางวัลนี้ร่วมกับการ์ตูนอีก 3 เรื่อง คือ  Azumi ผลงานของ อ.Yuu Koyama, Seirei Tsukai Erementara
ผลงานของ อ.Takeshi Okazaki, Monster คนปีศาจ ผลงานของ อ.Naoki Urasawa และได้รางวัลการ์ตูนภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม
ที่ตีพิมพ์ออกวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาจาก Eisner Award ในปี 2000 อีกด้วย



มันยิ มาสะ ซามูไรผู้ฆ่าคนมาแล้ว 100 คน แม้เขาต้องการจะตายเพื่อชดใช้ความผิดที่เขาเคยทำมา
แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเขาคือบุรุษผู้มีชีวิตอมตะ และยังมี มาจิ น้องสาวแท้ๆ ที่จะต้องดูแล ในอดีต มันยิ ได้รับบาดเจ็บสาหัส
คุณยายเฒ่า ยาโอบิคุนิ เป็นผู้ช่วยชีวิตเขาไว้ โดยการฝัง "หนอนเซียนเลือด" ในร่างมันยิ ทำให้มันยิได้รับชีวิตอมตะ
หลังจากสูญเสียมาจิ มันยิจึงออกเดินทางเขาตั้งเป้าว่าจะต้องฆ่าคนชั่วให้ได้ 1000 คนเพื่อล้างบาป
ย้อนหลังไปเมื่อ 2 ปีก่อน สำนักมุเทนอิจิริวถูกถล่มจนย่อยยับโดย อาโน คาเงฮิสะ ผู้นำแห่งอิตสึโทริว
ผู้ประกาศกร้าวว่าจะทำลายทุกสำนักในญี่ปุ่นให้เหลือเพียง อิตสึโทริวเท่านั้น
อาซาโนะ ริน สาวน้อยลูกสาวของเจ้าสำนักมุเทนอิจิริวเป็นผู้เดียวที่รอดชีวิต
เธอสาบานว่าจะต้องล้างแค้นให้กับพ่อแม่ของเธอให้ได้ เธอจึงออกเดินทางเพื่อฝึกฝนเป็นเวลาถึง 2 ปี
จนได้พบกับยาโอยิคุนิ ยาโอบิคุนิแนะนำเธอให้จ้างมันยิเป็นผู้คุ้มกัน
และแล้วการเดินทางระหว่างมันยิและรินเพื่อทำลายล้างอิตสึโทริวก็ได้เริ่มขึ้น...

ภาพปก ฤทธิ์ดาบไร้ปรานี Blade of the Immortal ฉบับพิมพ์ครั้งแรก เล่ม 1-30 (จบ)



ภาพปก ฤทธิ์ดาบไร้ปรานี Blade of the Immortal ฉบับพิมพ์ใหม่ ปี 2016-2017 เล่ม 1-15 (จบ)



Takashi Miike (JOJO ล่าข้ามศตวรรษ Part 4, Terra Formars ภารกิจล้างพันธุ์นรก, เกมเทวดา Kamisama no Iu Toori) นำการ์ตูนเรื่อง
ฤทธิ์ดาบไร้ปรานี Blade of the Immortal ไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ นำแสดงโดย Takuya Kimura รับบทเป็น Manji Masa เข้าฉายใน
โรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันที่ 29 เม.ย. 2017 เปิดตัวในอันดับ 6 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงสุดสัปดาห์แรก
(29-30 เม.ย. 2017) 189,087,000 เยน และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปได้ทั้งสิ้น 965 ล้านเยน



นอกจากนี้การ์ตูนเรื่อง ฤทธิ์ดาบไร้ปรานี Blade of the Immortal ยังมีการนำมาเขียนภาคบาคุมัทสึ Mugen no Juunin - Bakumatsu no Shou
เป็นผลงานร่วมของ อ.Ryu Suenobu ซึ่งมารับหน้าที่วาดภาพ และ อ.Kenji Takigawa ซึ่งมารับหน้าที่เขียนเนื้อเรื่อง โดยมี อ.Hiroaki Samura
เจ้าของผลงานการ์ตูนต้นฉบับเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เริ่มลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Afternoon ฉบับเดือน ก.ค. 2019 (25 พ.ค. 2019)





ที่มา Natalie

แจ้งข่าวการ์ตูน VBK : 26 สิงหาคม 2562

========================================

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2562

1. สูตรเด็ด ครัวจอมโหด เล่ม 4 Yu Satsumi & Fukuzawa Tetsuzou 75 บาท



2. คินดะอิจิ 37 กับคดีฆาตกรรมปริศนา เล่ม 4 Fumiya Sato & Seimaru Amagi 75 บาท



3. BLUE LOCK ขังดวลแข้ง เล่ม 2 Yusuke Nomura & Muneyuki Kaneshiro 75 บาท




========================================