เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Basilisk: Ouka Ninpouchou ประกาศว่าจะมาเริ่มออกอากาศที่ญี่ปุ่นในเดือน ม.ค. 2018
พร้อมทั้งเปิดเผยรายชื่อทีมงาน, รายชื่อนักพากย์ รวมถึงผู้ที่มาขับร้อง Opening Theme (OP) และ Ending Theme (ED)
รายชื่อนักพากย์
- Tasuku Hatanaka (Daisuke Inoue - Nana Maru San Batsu) พากย์เป็น Hachirou Kouga
- Inori Minase (Meteora Österreich - Re:CREATORS) พากย์เป็น Hibiki Iga
- Takuya Kirimoto (Masamune Kido - World Trigger) พากย์เป็น Kazuma Kusanagi
- Ryuu Yamaguchi (Kyuuju Amagiri - Hakuoki) พากย์เป็น Kasou Himonji
- Cho พากย์เป็น Geiin Shichito
- Shouhei Tou พากย์เป็น Tenjin Yusa
- Kosuke Sakaki (Souichirou Kataoka - Idol Memories) พากย์เป็น Kareha Shogyou
- Chafurin พากย์เป็น Houetsu Tsuta
- Yuji Murai พากย์เป็น Itsuma Irootoroe
- Tooru Sakurai (Tonbokiri - Katsugeki/Touken Ranbu) พากย์เป็น Shuugetsu Suiren
รายชื่อทีมงาน
- กำกับโดย Junji Nishimura (ViVid Strike!, Bakuon!!)
- ดูแลเนื้อเรื่องโดย Shinsuke Onishi (Night Raid 1931)
- ออกแบบตัวละครต้นฉบับโดย Masaki Segawa
- ออกแบบตัวละครฉบับอนิเมและหัวหน้าทีมกำกับอนิเมชั่นโดน Takao Maki (Donten ni Warau)
- ออกแบบตัวละครฉบับอนิเมบทรองโดย Kazuhisa Kosuge
- ออกแบบอุปกรณ์ประกอบฉากโดย Goichi Iwahata
- กำกับภาพโดย Tadashi Kitaoka (Basilisk, White Album, ViVid Strike!)
- ดนตรีประกอบโดย Go Sakabe (Date A Live, Digimon Adventure tri.)
- ผลิตอนิเมโดย Seven Arcs Pictures
สำหรับเพลงประกอบของทีวีอนิเม Basilisk: Ouka Ninpouchou ยังคงเป็นวงเฮฟวี่เมทัล Onmyouza กลับมาขับร้องเพลงที่ใช้เป็น OP
และนักพากย์ Nana Mizuki กลับมาขับร้องเพลงที่ใช้เป็น ED โดยก่อนหน้านี้เพลง Kouga Ninpouchou ของวง Onmyouza เคยได้ใช้เป็น
OP แล้วอีกสองเพลง Hime Murasaki กับ Wild Eyes ของ Nana Mizuki เคยใช้เป็น ED1-2 ให้ทีวีอนิเม Basilisk เนตรสยบมาร เมื่อปี 2005
นิยาย Kouga Ninpouchou ผลงานของ อ.Futaro Yamada เล่มแรกในนิยายชุด Ninpouchou ตีพิมพ์ครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในปี 1959
ได้นำไปเขียนเป็นฉบับการ์ตูนมาแล้วหลายเวอร์ชั่น ล่าสุดก็เป็นผลงานของ อ.Masaki Segawa ใช้ชื่อเรื่องว่า Basilisk เนตรสยบมาร
(Basilisk: Kouga Ninpouchou) ทั้งชุด 5 เล่มจบ ซึ่งเวอร์ชั่นนี้สตูดิโอ Gonzo ได้นำไปใช้เป็นต้นฉบับในการสร้างเป็นทีวีอนิเม
ความยาว 24 ตอนจบ ออกอากาศที่ญี่ปุ่น 12 เม.ย. - 20 ก.ย. 2005 แล้วยังได้มีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ใช้ชื่อเรื่องว่า
Shinobi -Heart under Blade- เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นเมื่อ 15 ก.ย. 2005 ผลงานกำกับโดย Ten Shimoyama,
เขียนบทโดย Kenya Hirata และนำแสดงโดย Yukie Nakama รับบทเป็น Oboro และ Joe Odagiri รับบทเป็น Gennosuke
ตระกูลนินจาสองตระกูลแห่งอิงะและโคงะต่างเป็นศัตรูกันมายาวนานกว่าสี่ร้อยปี จนกระทั่งฮัตโตริ ฮันโซรุ่นที่หนึ่ง
ได้ทำให้ทั้งสองฝ่ายสงบศึกด้วยการร่างสัญญาสงบศึกและยอมอยู่ใต้อาณัติของโชกุนโทะกุงะวะ อิเอะยะซุ
ในปี พ.ศ. 2157 หรือปีเคโชที่ 19 โทะกุงะวะ อิเอะยะซุในวัย 73 ปีออกจากตำแหน่งโชกุนและมอบอำนาจให้กับฮิเดะทาดะผู้เป็นบุตรชาย
หลังจากนั้นย่อมต้องมีการเลือกทายาทคนต่อไปว่าใครจะได้เป็นโชกุนต่อจากฮิเดะทาดะ ระหว่างทาเคะจิโยะ พี่ชายผู้โง่เขลา หรือคุนิจิโยะ
น้อง
ชายผู้ชาญฉลาด เพื่อไม่ให้เหล่าขุนนางเกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวก
อิเอะยะซุที่จำเป็นต้องตัดสินใจเลือกโดยเร็วจึงสั่งให้ยกเลิกสัญญาสงบศึก
ระหว่างตระกูลนินจาสองตระกูล และให้ทั้งสองฝ่ายส่งยอดฝีมือ 10 คนเข้าห้ำหั่นกันในการตัดสินว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งโชกุน
รายชื่อของนินจาของทั้งสองฝ่ายจะถูกเขียนลงในกระดาษสองแผ่น แต่ละฝ่ายจะครอบครองไว้คนละแผ่น
ชื่อของผู้เสียชีวิตจะต้องถูกขีดฆ่าด้วยเลือด ถ้าหากฝ่ายโคงะมันจิดานิชนะ คุนิจิโยะจะได้รับตำแหน่งโชกุน
ในขณะที่ทาเคะจิโยะจะได้ตำแหน่งเมื่ออิงะสึบะงาคุเระเป็นฝ่ายชนะ ทั้งสองตระกูลที่สงบศึกกันมานานต่างเก็บงำความแค้นไว้ในใจ
เมื่อสัญญาสงบศึกถูกยกเลิกจึงต่อสู้กันโดยไม่ลังเล เว้นแต่ทายาทของหัวหน้าทั้งสองตระกูลคือโคงะ เก็นโนสุเกะ และอิงะ โอโบโระ
ที่ในตอนแรกหวังจะรักษาสันติภาพด้วยการแต่งงานของทั้งคู่ แต่เมื่อต้องมาต่อสู้กันจึงไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้อีกต่อไป
อ.Masaki Yamada ได้เขียนนิยาย Ouka Ninpouchou: Basilisk Shinshou ออกวางแผงที๋ญี่ปุ่นในปี 2015 เป็นภาคต่อที่เล่าเรื่องราว
ในอีก 10 ปีต่อมาจากนิยาย Kouga Ninpouchou เกี่ยวกับ Hachirou กับ Hibiki สองนินจาจาก Kouga กับ Iga ซึ่งภาคต่อนี้ยังมีการนำ
ไปเขียนเป็นฉบับการ์ตูน เริ่มลงพิมพ์นิตยสารการ์ตูน Weekly Young Magazine ฉบับที่ 34/2017 (24 ก.ค. 2017) รับหน้าที่วาดภาพ
โดย อ.Tatsuya Shihira (Q [คู]) แล้วยังนำไปดัดแปลงเป็นทีวีอนิเม ที่มีกำหนดออกอากาศที่ญี่ปุ่นในเดือน ม.ค. 2018 อีกด้วย
ภาพปกนิยาย Ouka Ninpouchou: Basilisk Shinshou
ที่มา Basilisk Ouka
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น