ที่ Shinjuku FACE Theater กรุงโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 10-20 ม.ค. 2019 โดยได้ Yuu Murai รับหน้าที่กำกับ และ Keita Kawajiri
รับหน้าที่เขียนบท โดยเว็บไซต์ของละครเวที ได้ปล่อยโปสเตอร์โปรโมท พร้อมภาพบรรดานักแสดงในชุดแสดงออกมาให้ได้ดูด้วย
Taiga Fukazawa รับบทเป็น Masaru Saiga
Koudai Takikawa รับบทเป็น Narumi Kato
Momoka Onishi สมาชิกวงไอดอล AKB48 รับบทเป็น Shirogane / Francine
Riho Iida รับบทเป็น Shirogane / Francine
Kento รับบทเป็น Eiryo Ashihana
Yuuki Ochi รับบทเป็น Guy Christophe Rech
Ryouko Tanaka รับบทเป็น Lucille Berneuil
Mitsuru Karahashi รับบทเป็น Pantalone
Hiroya Matsumoto รับบทเป็น Arlecchino
Seshiru Daigo รับบทเป็น Columbine
Shuuhei Izumi รับบทเป็น Dottore
Shoujirou Yokoi รับบทเป็น George LaRoche
Natsuki Maeda รับบทเป็น Harlequin
Saki Endou รับบทเป็น Fatima
Youjirou Murata รับบทเป็น Faceless
Ryotaro Kosaka รับบทเป็น Bai Jin
Kairi Miura รับบทเป็น Bai In
อ.Kazuhiro Fujita ผู้วาด ล่าอสุรกาย, จันทราประกาศิต (Gekkou Jourei) และ ถล่มเรือนอสูร โซโบเท (Sou-Bou-Tei Kowasu Beshi)
เขียนการ์ตูนเรื่อง หุ่นเชิดสังหาร มาลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน Shonen Sunday ฉบับที่ 32/1997 (9 ก.ค. 1997) จนถึงฉบับที่ 26/2006
(31 พ.ค. 2006) รวมเป็นฉบับพิมพ์ครั้งแรกทั้งหมด 43 เล่มจบ ต่อมาได้นำกลับมาพิมพ์ใหม่ในปี 2011-2013 ชุดนี้ทั้งหมด 23 เล่มจบ
มียอดพิมพ์ฉบับรวมเล่มรวมกันในญี่ปุ่นมากกว่า 15,000,000 เล่ม Studio VOLN นำไปดัดแปลงเป็นทีวีอนิเม ความยาว 36 ตอนจบ
เริ่มออกอากาศตอนแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2018 ที่ผ่านมา
ไซงะ มาซารุ เด็กน้อยผู้ได้รับมรดก 18,000 ล้านเยน จากผู้เป็นพ่อทำให้ตกเป็นเป้าหมายของเหล่าญาติๆ จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน
ไปจนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือจาก ชิโรงาเนะนักเชิดหุ่นสาวสวย และคาโต้ นารุมิ ชายหนุ่มยอดฝีมือ ผู้ป่วยเป็นโรคโซนาฮา
เนื้อเรื่องจะเป็นการต่อสู้โดยใช้หุ่นเชิดในการสู้กัน หลังจากที่อ่านถึงเล่ม 7 จะเจอจุดพลิกอันใหญ่หลวงว่าโรคที่ นารูมิ เป็นโรคโซน่าฮา
ซึ่งเป็นโรคที่ถ้าทำให้คนรอบข้างไม่หัวเราะตัวเองจะทรมานหายใจไม่ออกนั้นไม่ใช่โรคที่เกิิดขึ้นตามธรรมชาติแต่เป็นโรคที่เกิดจากการ
ปล่อยเชื้อของจักรกลมีชีวิตหรือออโตมาต้า เรื่องนี้เป็นการดำเนินเรื่องแบบคู่ขนาน ซึ่งจะเป็นเรื่องของ มาซารุ และ นารุมิ ที่ทั้งสองคน
ที่ได้เจอกันในเล่มแรกแต่ต้องแยกทางกัน ทั้งสองต่างมีเรื่องราวของตนเองโดยผู้แต่งจะสลับไปมา เหมือนได้สองอรรถรสในเรื่องเดียว
เพราะการดำเนินเรื่องของทั้งสองคนจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ที่มา Natalie
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น