My Boy จบแล้ว

การ์ตูนเรื่อง My Boy (Watashi no Shonen) ผลงานของ อ.Hitomi Takano ลงพิมพ์ตอนอวสาน พร้อมภาพสีเปิดตอน
ในนิตยสารการ์ตูน Young Magazine ฉบับที่ 48/2020 ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2020 ที่ผ่านมา และ
และฉบับรวมเล่ม 9 ซึ่งเป็นเล่มจบ มีกำหนดออกวางแผงที่ญี่ปุ่นในวันที่ 4 ธ.ค. 2020



อ.Hitomi Takano ผู้วาด Tsuranaru Stella, Omae no Subete ga Moeagaru, "Su" no Tsuku Kotoba de Itte Kure  
เขียนการ์ตูนเรื่อง My Boy มาเริ่มลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Monthly Action (Futabasha) ฉบับเดือน ก.พ. 2016
(25 ธ.ค. 2016) แล้วลงพิมพ์มาจนถึงฉบับเดือน ก.พ. 2018 (25 ธ.ค. 2017) แล้วก็หยุดลงพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้ไประยะหนึ่ง
จนกระทั่งในฉบับเดือน มิ.ย. 2018 (25 เม.ย. 2018) ได้มีการลงประกาศว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะมีการย้ายไปลงพิมพ์ตอนใหม่ใน
นิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ Young Magazine (Kodansha) เริ่มตั้งแต่ฉบับที่ 26/2018 (28 พ.ค. 2018) เป็นต้นไป ถึงแม้ว่า
จะเป็นนิตยสารรายสัปดาห์ แต่การ์ตูนเรื่องนี้ยังคงนำมาลงพิมพ์ให้อ่านเพียงเดือนละหนึ่งตอนอีกเช่นเดิม ปัจจุบันการ์ตูนเรื่องนี้
มีฉบับรวมเล่มออกวางแผงที่ญี่ปุ่นแล้ว 8 เล่ม มียอดพิมพ์ฉบับรวมเล่มรวมกันในญี่ปุ่นมากกว่า 1,400,000 เล่ม

การ์ตูนเรื่อง My Boy ได้รับเลือกให้อยู่ในอันดับที่ 2 การ์ตูนผู้ชายน่าอ่าน ประจำปี 2016 จาก Kono Manga ga Sugoi! 2017,
อันดับที่ 6 จาก Kore Yonde Manga Ranking Best 50 ประจำปี 2016 ของนิตยสาร Entermix ตีพิมพ์ลงในฉบับเดือน ก.พ.
2017 (12 ธ.ค. 2016) คัดเลือกโดยพนักงานจากร้านหนังสือกว่าสามพันแห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น, อันดับที่ 1 จาก Ore Manga
Taisho ประจำปี 2016, อันดับที่ 6 จาก Zenkoku Shoten in ga Eranda Osusume Comic ประจำปี 2017, ได้รับการเสนอชื่อ
เข้าชิงรางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยม จาก Manga Taisho Award ครั้งที่ 10 ประจำปี 2017 (ผลคะแนนอยู่ในอันดับที่ 11), ได้รับเลือก
ให้อยู่ในอันดับที่ 3 ซีรีย์ใหม่ยอดเยี่ยม Tsugi ni Kuru Manga Taisho ครั้งที่ 3 ประจำปี 2017

"ทาวาดะ ซาโตโกะ สาววัยสามสิบผู้ถูกคนรักเก่าปฏิบัติด้วยอย่างโหดร้าย
ฮายามิ มาชู เด็กหนุ่มหน้าสวยอายุสิบสองผู้ถูกครอบครัวทอดทิ้งไม่ไยดี
หนุ่มสาวต่างวัยได้มาพบกันในสวนสาธารณะกลางดึก และสัมผัสได้ถึงความอ้างว้างในใจของกันและกัน
จนทำให้ทั้งคู่รู้สึกขาดกันไม่ได้ ความรู้สึกนี้คือสัญชาตญาณของความเป็นแม่? หรือว่า..."



ที่มา Natalie 1 , Natalie 2