วันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2560

โรงเรียนคุกนรก Prison School จบวันคริสต์มาส 2017

นิตยสารการ์ตูน Young Magazine ฉบับที่ 2-3/2018 (11 ธ.ค. 2017) ได้ประกาศออกมาแล้วว่าการ์ตูนเรื่อง โรงเรียนคุกนรก Prison School
(Kangoku Gakuen) ผลงานของ อ.Akira Hiramoto จะลงพิมพ์ตอนอวสานในฉบับที่ 4-5/2018 ที่มีกำหนดออกวางแผงในญี่ปุ่น 25 ธ.ค. 2017



อ.Akira Hiramoto เริ่มเขียนการ์ตูนเรื่อง โรงเรียนคุกนรก Prison School ลงในนิตยสารการ์ตูน Young Magazine ฉบับที่ออกวางแผงในเดือน
ก.พ. 2011 ปัจจุบันมีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่น 27 เล่ม มียอดพิมพ์ฉบับรวมเล่มรวมกันในญี่ปุ่น 12,000,000 เล่ม สตูดิโอ J.C.Staff
ได้นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปดัดแปลงให้เป็นทีวีอนิเม ความยาว 12 ตอนจบ ออกอากาศที่ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. 2015 จนถึงวันที่ 26 ก.ย. 2015
และ Original Animation DVD ดัดแปลงจากเนื้อเรื่องในช่วง Mad Wax มาพร้อมกับฉบับรวมเล่ม 20 แบบ Limited Edition (4 มี.ค. 2016)
การ์ตูนเรื่องนี้ยังได้รับรางวัลการ์ตูนทั่วไปยอดเยี่ยมจาก Kodansha Manga Awards ครั้งที่ 37 ในปี 2013 ร่วมกับการ์ตูนเรื่อง Gurazeni

โรงเรียนเอกชนเอกชนฮาจิมิทสึ โรงเรียนหญิงล้วนที่มีประวัติยาวนาน โรงเรียนคุณหนูแห่งนี้
ตัดสินใจเปิดรับนักเรียนชายเข้าเรียนตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ทว่า กลับมีนักเรียนชายเข้าเรียนเพียง 5 คนเท่านั้น
ฟูจิโนะ คิโยชิ หนึ่งในนักเรียนชายเหล่านั้น รู้สึกตื่นเต้น กับการได้เข้ามาอยู่ในโรงเรียนที่มีแต่ผู้หญิงเป็นอย่างมาก
โดยไม่รู้แม้แต่น้อยกว่าเบื้องหน้าของเขานั้น มีอนาคตอันน่าตื่นตะลึงรออยู่...



นอกจากนี้ อ.ReDrop ผู้วาดภาพประกอบไลท์โนเวล มือสองแล้วทำไม ถ้าใจคิดจะรัก! (Chuuko demo Koi ga Shitai!) เขียนการ์ตูนเรื่อง
Fukukaichou Ganbaru ซึ่งเป็นไซต์สตอรี่ของการ์ตูนเรื่อง โรงเรียนคุกนรก Prison School เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Meiko Shiraki ลงพิมพ์ใน
นิตยสารการ์ตูน Young Magazine the 3rd ตั้งแต่ฉบับที่ออกวางแผงในญี่ปุ่น 6 ส.ค. 2016 จนกระทั่งจบในฉบับที่ออกวางแผงในญี่ปุ่น
6 ต.ค. 2017 รวมเป็นฉบับรวมเล่มแบบเล่มเดียวจบ และ อ.Hanamura เขียนการ์ตูน Anime Kangoku Gakuen o Tsukutta Otoko-tachi
ซึ่งเป็นภาคพิเศษโปรโมทให้การ์ตูนเรื่อง โรงเรียนคุกนรก Prison School ที่ได้ทำทีวีอนิเม ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูนเล่มเดียวกับไซต์สตอรี่
ตั้งแต่ฉบับที่ออกวางแผงในญี่ปุ่น 24 ก.ค. 2015 จนถึงฉบับที่ออกวางแผงในญี่ปุ่น 5 ต.ค. 2015 รวมเป็นฉบับรวมเล่มแบบเล่มเดียวจบ

ไม่เพียงเท่านั้นการ์ตูนเรื่อง โรงเรียนคุกนรก Prison School ยังได้มีการนำไปดัดแปลงเป็นละครทีวี ความยาว 9 ตอนจบ
ออกอากาศที่ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2015 จนถึงวันที่ 21 ธ.ค. 2015 และจัดแสดงในรูปแบบละครเวที ทั้งหมด 8 รอบ
ที่ The Pocket Theater กรุงโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. 2017 จนถึงวันที่ 4 ก.พ. 2017



ที่มา Mantan Web , toda_numazu

ละครทีวี Kuragehime ประกาศผู้ที่มารับบทเป็น Shuu Koibuchi

เว็บไซต์ละครทีวี Kuragehime ประกาศว่านักแสดง Asuka Kudo (Shun Miyazaki - หันมาทางนี้เถอะนะ, โมโมเสะ Momose, Kotchi wo Muite)
มารับบทเป็น Shuu Koibuchi พี่ชายต่างแม่ของ Kuranosuke และเป็นผู้ช่วยของพ่อที่เป็นนักการเมือง ในละครทีวีเรื่องนี้ ออกอากาศทุกวันจันทร์
เวลา 21:00 น. ทางสถานี Fuji TV เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค. 2018 โดยได้ Junichi Ishikawa (Date - Koi to wa Donna Mono Kashira, Fragile,
Mix) รับหน้าที่กำกับ และ Yuichi Tokunaga (Hope: Kitai Zero no Shinnyu Shain, Tantei no Tantei, Umi ni Furu) รับหน้าที่เขียนบท



รายชื่อนักแสดงที่ได้ประกาศไปแล้ว

Kyoko Yoshine (Jun Naruse - เมื่อใจกู่ร้องอยากบอกโลก Kokoro ga Sakebitagatterunda) รับบทเป็น Tsukimi Kurashita



Koji Seto (Kodaka Hasegawa - ชมรมคนไร้เพื่อน Boku wa Tomodachi ga Sukunai) รับบทเป็น Kuranosuke Koibuchi





อ.Akiko Higashimura ผู้วาด Tokyo Tarareba Musume, Kakukaku Shikajika เขียนการ์ตูนเรื่อง Kuragehime มาเริ่มลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน
Kiss ฉบับที่ออกวางแผงในญี่ปุ่นวันที่ 10 พ.ย. 2008 เคยมีการหยุดเขียนไปช่วงหนึ่งตั้งแต่เดือน ม.ค. 2016 แล้วกลับมาลงพิมพ์ต่อในฉบับเดือน
ส.ค. 2017 (24 ก.ค. 2017) จนกระทั่งจบในฉบับเดือน ต.ค. 2017 (25 ส.ค. 2017) รวมเป็นฉบับเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นทั้งหมด 16 เล่มจบ

สตูดิโอ Brain's Base ได้นำการ์ตูนเรื่อง Kuragehime ไปสร้างเป็นทีวีอนิเม 11 ตอนจบ รับหน้าที่กำกับโดย Takahiro Omori
(พี่น้องคู่วุ่น Aka-chan to Boku, นัตซึเมะกับบันทึกพิศวง Natsume Yuujinchou ซีซั่น 1-4, Hotarubi no Mori e)
ออกอากาศทางสล็อตเวลา Noitamina ของทางสถานี Fuji TV ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 2010 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2010

รายชื่อนักพากย์
- Tsukimi Kurashita พากย์โดย Kana Hanazawa (Misaki Takasaki - จะรักหรือจะหลอก Koi to Uso)
- Kuranosuke Koibuchi พากย์โดย Mitsuki Saiga (Kiyoka - Super Lovers)
- Chieko พากย์โดย Kimiko Saito (Marie - Dimension W มิติปริศนา)
- Mayaya พากย์โดย Akemi Okamura (Shion - Mekakucity Actors)
- Banba พากย์โดย Motoko Kumai (Syaoran Li - Cardcaptor Sakura)
- Jiji พากย์โดย Mamiko Noto (Mavis Vermillion - Fairy Tail ศึกจอเวทอภินิหาร)
- Shuu Koibuchi พากย์โดย Junichi Suwabe (Archer - Fate/stay night)

คุราชิตะ สึคิมิ สาวผู้คลั่งไคล้แมงกะพรุน เข้ากรุงโตเกียวเพื่อมาเป็นนักวาดภาพ ย้ายมาพักที่อพาร์ทเมนท์อามามิซึ
ซึ่งเต็มไปด้วยฟุโจชิหลายแขนงที่เป็นคนเฉิ่มๆเชยเหมือนกัน และมีกฎข้อห้ามเรื่องผู้ชาย แต่วันหนึ่งมีเหตุให้สึคิมิ
พาสาวสวยมีสไตล์มาที่ห้องหลังจากได้รับความช่วยเหลือ และต้องพบว่าเธอคนนั้นไม่ใช่อย่างที่คิด



ไม่เพียงเท่านั้น การ์ตูนเรื่อง Kuragehime ยังได้นำไปสร้างเป็นฉบับภาพยนตร์ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น
27 ธ.ค. 2014 ผลงานกำกับของ Yasuhiro Kawamura (L♥DK มัดหัวใจเจ้าชายเย็นชา, Kochikame the Movie),
เขียนบทโดย Toshiya Ono, นำแสดงโดย Rena Nounen รับบทเป็น Tsukimi Kurashita, Masaki Suda รับบทเป็น
Kuranosuke Koibuchi และเมื่อสิ้นสุดโปรแกรมฉายในญี่ปุ่นแล้ว กวาดรายได้ไปทั้งสิ้น 4,140 ล้านเยน



ที่มา Natalie

My Hero Academia ประกาศสร้างภาพยนตร์อนิเม ฉายที่ญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อน 2018

นิตยสารการ์ตูน Shonen Jump ฉบับที่ 2-3/2018 (11 ธ.ค. 2017) ประกาศว่าการ์ตูนเรื่อง My Hero Academia (Boku no Hero Academia)
ได้นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเม มีแผนนำเข้าฉายโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อน 2018 สำหรับเนื้อเรื่องจะเป็นเรื่องราวที่เขียนขึ้นมาใหม่
โดย อ.Kouhei Horikoshi เจ้าของผลงานการ์ตูนเรื่องนี้่เอง เน้นไปที่บรรดาตัวละครในห้อง A แล้วก็จะมีการเปิดเผยอดีตของตัวละครบางตัว
ที่ยังไม่เคยได้เปิดเผยมาก่อนในหนังสือการ์ตูนต้นฉบับ ซึ่งภายในงาน Jump Festa 2018 (16-17 ธ.ค. 2017) จะมีภาพโปรโมทให้เห็นด้วย



อ.Kouhei Horikoshi เริ่มเขียนการ์ตูนเรื่อง My Hero Academia ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ Shonen Jump ในเดือน ก.ค. 2014
ปัจจุบันมีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว 16 เล่ม การ์ตูนเรื่องนี้ยังได้นำไปเขียนเป็นนิยาย My Hero Academia: Yuuei Hakusho
โดย อ.Anri Takashi ออกวางแผงในญี่ปุ่นมาแล้ว 2 เล่ม แล้วได้นำไปทำเป็นเกม My Hero Academia: Battle for All ลงบนเครื่องเกม
Nintendo 3DS ที่ออกวางจำหน่ายในญี่ปุ่นไปเมื่อ 19 พ.ค. 2016 และ My Hero Academia: One's Justice Game ลงบนเครื่องเกม
PlayStation 4 กับ Nintendo Switch สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกมภาคใหม่จะเปิดเผยให้ทราบภายในงาน Jump Festa 2018

การ์ตูนเรื่องนี้ยังมีการนำไปเขียนเป็นภาคแยกอีก 2 ภาค คือ My Hero Academia Smash!! การ์ตูนแนว 4 ช่อง เริ่มมาลงให้อ่านในเว็บไซต์
Shonen Jump+ ตั้งแต่ปี 2015 รับหน้าที่วาดภาพโดย อ.Hirofumi Neda รวมเป็นฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นทั้งหมด 5 เล่มจบ และ
Vigilante: My Hero Academia Illegals รับหน้าที่วาดภาพโดย อ.Betten Court เริ่มลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน Shonen Jump GIGA
ในปี 2016 แล้วย้ายไปลงต่อในเว็บไซต์ Shonen Jump+ มีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว 2 เล่ม ยังไม่จบ

สตูดิโอ BONES ได้นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปดัดแปลงเป็นทีวีอนิเมซีซั่นแรก ความยาว 13 ตอน ออกอากาศที่ญี่ปุ่นวันที่ 3 เม.ย. - 26 มิ.ย. 2016,
ซีซั่นสอง ความยาว 25 ตอน ออกอากาศที่ญี่ปุ่นวันที่ 1 เม.ย. - 30 ก.ย. 2017 และซีซั่นสาม เริ่มออกอากาศที่ญี่ปุ่นในเดือน เม.ย. 2018
แล้วก็ยังมีอนิเมตอนพิเศษ Sukue! Kyujo Kunren ความยาว 25 นาที เนื้อเรื่องที่เขียนขึ้นมาใหม่อยู่ระหว่างทีวีอนิเมซีซั่นแรกกับซีซั่นสอง
โดย อ.Kohei Horikoshi เจ้าของผลงาน ซึ่งได้มีการนำไปจัดฉายโชว์ในงานอีเวนท์ Jump Special Anime Festa 2016 (24 พ.ย. 2017)
บรรจุลงในแผ่น DVD มาพร้อมกับฉบับรวมเล่ม 13 แบบ Limited Edition (4 เม.ย. 2017) กับตอนพิเศษ Training of the Dead
มาพร้อมกับฉบับรวมเล่ม 14 แบบ Limited Edition (2 มิ.ย. 2017)



มิโดริยะ อิซึคุเป็นเด็กมัธยมต้นธรรมดาคนหนึ่งที่อยู่ในโลกของผู้คนที่ไม่ธรรมดา เพราะว่าโลกที่เขาอยู่นั้น 80% ของมนุษย์ล้วนมี
"อัตลักษณ์" หรือว่าพลังเหนือธรรมชาตินั่นเอง ทว่าอิซึคุนั้นได้มีความฝันอยากเป็น "ฮีโร่" มาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้เขาจะโดนเพื่อนล้อหรือรังแก
เพราะเหตุผลที่เขาไร้อัตลักษณ์มาตั้งแต่เกิดก็ตาม แต่หลังจากเหตุการวิกฤติวันหนึ่งที่อิซึคุได้พยายามช่วยชีวิตเพื่อนสมัยเด็กของเขาไว้จาก
"วิลเลิน" นั้นทำให้ฮีโร่อันดับ 1 และไอดอลของอิซึคุนาม ออลไมท์ ได้เห็นวีรกรรมของอิซึคุ เขาจึงได้ตัดสินใจมอบอัตลักษณ์ของตนแด่อิซึคุ
นั่นก็คือ "วัน ฟอร์ ออล" เรื่องราวหลังจากนี้บอกเล่าประสบการณ์ใน "โรงเรียนมัธยมปลายยูเอ "ของมิโดริยะ
และอุปสรรค์ที่เขาต้องฟันฝ่าก่อนที่จะมาเป็นสุดยอดฮีโร่ได้



ที่มา Natalie

รวมมิตรข่าวการ์ตูน ฉบับที่ 20/2017

===================================================

Cardfight!! Vanguard มีการ์ตูนภาคแยก "Another Vanguard: Seidou no Asuka" รับหน้าที่วาดภาพโดย อ.Haruha Mitsukoshi
และดูแลเนื้อเรื่องโดย อ.Kabuto Chuujou เริ่มตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Monthly Bushiroad ฉบับเดือน ม.ค. 2018 (8 ธ.ค. 2017) [x]



"Blend S เล่ม 1" มียอดขายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 10.2 เท่า หลังจากอนิเมออกอากาศ



"Black Clover เล่ม 1" มียอดขายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 5.3 เท่า หลังจากอนิเมออกอากาศ



"Houseki no Kuni เล่ม 1" มียอดขายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 4.5 เท่า หลังจากอนิเมออกอากาศ



"เจ้าสาวผมแดงกับจอมเวทอสูร (Mahou Tsukai no Yome) เล่ม 1" มียอดขายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 3.6 เท่า หลังจากอนิเมออกอากาศ



"Shoujo Shuumatsu Ryokou เล่ม 1" มียอดขายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 3 เท่า หลังจากอนิเมออกอากาศ



อ.Milan Matra (ภูตจี๊ดฮิมาริ Omamori Himari) มีผลงานใหม่ "Black Sister Insomnia"
เริ่มตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Dragon Age ฉบับเดือน ก.พ. 2018 ที่มีกำหนดออกวางแผงในญี่ปุ่น 9 ม.ค. 2018



"BlazBlue - Variable Heart" ผลงานของ อ.Sumeragi (ภาพ) & อ.Toshimichi Mori (เรื่อง)
จบแล้วในนิตยสารการ์ตูน Dragon Age ฉบับเดือน ม.ค. 2018 (9 ธ.ค. 2017)



"Getsuyoubi no Tomodachi" ผลงานของ อ.Tomomi Abe จบในนิตยสารการ์ตูน
Big Comic Spirits ฉบับที่ 2-3/2018 (11 ธ.ค. 2017) และฉบับรวมเล่มจะจบในเล่ม 2



อ.Tomoko Hayakawa (หนุ่มหล่อเฟี้ยวแปลงโฉมสาว Yamato Nadeshiko Shichihenge) มีเรื่องสั้นตอนเดียวจบ
"Cinderella ja Arumaishi" ลงในนิตยสารการ์ตูน Petit Comic ฉบับเดือน ม.ค. 2018 (8 ธ.ค. 2017)



"Fuyu no Ou to Haru no Hime" เรื่องสั้นสองตอนจบ ผลงานร่วมของ อ.Tomu Ohmi (ภาพ) & อ.Yuki Yoshihara (เรื่อง)
ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน Petit Comic ฉบับเดือน ก.พ. 2018 (6 ม.ค. 2018) และฉบับเดือน มี.ค. 2018 (8 ก.พ. 2018)



"Yama to Shokuyoku to Watashi" ผลงานของ อ.Hideo Shinanogawa
มียอดพิมพ์ฉบับรวมเล่ม 1-6 รวมกันในญี่ปุ่น 500,000 เล่ม [x]



อ.Narumi Kakinouchi เขียน Kyuuketsu Hime Miyu ภาคใหม่ "Kyuuketsuki Miyu: Saku"
เริ่มตอนแรกในเว็บไซต์ Champion Cross เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2017 ที่ผ่านมา [x]



===================================================

ไลท์โนเวล สึซึมิยะ ฮารุฮิ มียอดพิมพ์รวมกันทั่วโลก 20 ล้านเล่ม

เว็บไซต์ Sneaker Bunko ประกาศว่าไลท์โนเวล สึซึมิยะ ฮารุฮิ (Suzumiya Haruhi) ผลงานของ อ.Nagaru Tanigawa มียอดพิมพ์
รวมกันทั่วโลกมากกว่า 20 ล้านเล่มแล้ว โดยก่อนหน้านี้ในปี 2014 เคยแจ้งว่าไลท์โนเวลชุดนี้มียอดพิมพ์รวมกันทั่วโลก 18 ล้านเล่ม



อ.Nagaru Tanigawa เขียนไลท์โนเวลชุด สึซึมิยะ ฮารุฮิ ตีพิมพ์กับทาง Sneaker Bunko ได้ร่วมงานกับ อ.Noizi Ito ซึ่งมารับหน้าที่
วาดภาพประกอบ ไลท์โนเวลชุดนี้ออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว 11 เล่ม สตูดิโอ Kyoto Animation นำไปดัดแปลงเป็นทีวีอนิเม 14 ตอนจบ
ออกอากาศที่ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. - 2 ก.ค. 2006 ต่อมามีการนำมาออกอากาศซ้ำอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. - 9 ต.ค. 2009
แต่ครั้งนี้มีการเรียงลำดับเรื่องราวใหม่ พร้อมเพิ่มตอนใหม่ลงไปด้วย รวมทั้งหมดมี 28 ตอนจบ และ การหายตัวไปของสึซึมิยะ ฮารุฮิ
(Suzumiya Haruhi no Shoshitsu) ภาพยนตร์อนิเมที่ดัดแปลงจากไลท์โนเวลเล่ม 4 (6 ก.พ. 2010) ทำเงินไปทั้งสิ้น 830 ล้านเยน

"ฉันไม่สนใจมนุษย์ธรรมดา ถ้าในที่นี้มีใครเป็นมนุษย์ต่างดาว คนจากโลกอนาคต ผู้มีพลังจิต ก็ขอให้มาหาฉันได้ แค่นี้แหละ!"
นั่นคือการแนะนำตัวสุดประหลาดของสึซึมิยะ ฮารุฮิในวันแรกของการเปิดเรียน นี่ไม่ใช่นิยายไซไฟนะ... ไม่ว่าใครก็คงคิดอย่างนั้น
ผมก็คนหนึ่งล่ะ แต่สึซึมิยะ ฮารุฮิจริงจังกับเรื่องแบบนี้เสมอ กว่าผมจะรู้ตัวชีวิตสามัญชนของผมก็ได้กลายเป็นความไม่สามัญอย่างที่สุดไปเสียแล้ว!!
พบกับผลงานอันโด่งดังซึ่งได้รับรางวัลนิยายยอดเยี่ยมอันทรงเกียรติจากทางสนีกเกอร์ ครั้งที่ 8



ที่มา prtimes , Sneaker Bunko