วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

"ดาบพิฆาตอสูร" ครองแชมป์ 6 สัปดาห์ติดต่อกัน "Stand By Me Doraemon 2" เปิดตัวอันดับ 2 "Violet Evergarden the Movie" ร่วงไปอันดับ 9 Japan Box Office

ดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ (Kimetsu no Yaiba: Mugen Ressha-hen) สัปดาห์ที่ 6 คงที่ในอันดับที่ 1 Japan Box Office
ทำเงินจากวันเสาร์ที่ 21 พ.ย. 2020 ไปได้ 439,606,550 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ 314,726 ใบ และทำเงินจากวันอาทิตย์ที่
22 พ.ย. 2020 ไปได้ 592,738,550 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ 433,315 ใบ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำเงินในช่วงสุดสัปดาห์ที่หก
(21-22 พ.ย. 2020) 1,032,345,100 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ 748,041 ใบ และรวมรายได้จากวันหยุดพิเศษ วันขอบคุณแรงงาน
(Kinrou Kansha no Hi) วันที่ 23 พ.ย. 2020 ทำเงินไปอีก 460,110,250 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ 357,741 เยน และกวาดรายได้
จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 25,917,043,800 เยน (39 วัน) จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 19,397,589 ใบ นับว่า
เป็นภาพยนตร์ที่กวาดรายได้ผ่านสองหมื่นห้าพันล้านเยนเร็วที่สุดในญี่ปุ่น โดยใช้เวลาเพียงแค่ 38 วัน อีกทั้งยังทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นไป
อยู่ในอันดับที่ 3 ภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลแซง your name. หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ ปี 2016 (25,030 ล้านเยน) ได้ในวันที่สามสิบแปด
และ Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ ปี 2014 (25,500 ล้านเยน) ได้ในวันที่สามสิบเก้าที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น

รูปภาพ

ภาพยนตร์ที่ทำเงินผ่าน 25,000 ล้านเยน จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นเร็วที่สุด (อัพเดท 21-22 พ.ย. 2020)
01. ดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ Kimetsu no Yaiba: Mugen Ressha-hen (ปี 2020) - 38 วัน
02. Spirited Away มิติวิญญาณมหัศจรรย์ (Sen to Chihiro no Kamikakushi) (ปี 2001) - 104 วัน
03. Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (ปี 2014) - 125 วัน
04. Titanic (ปี 1997) - 222 วัน
05. your name. หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Kimi no Na wa.) (ปี 2016) - 332 วัน

อันดับภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในญี่ปุ่น (อัพเดท 21-22 พ.ย. 2020 | **=รวมยอดจากการนำมาฉายซ้ำ)
01. Spirited Away มิติวิญญาณมหัศจรรย์ (Sen to Chihiro no Kamikakushi) (ปี 2001) - 31,660 ล้านเยน**
02. Titanic (ปี 1997) - 26,200 ล้านเยน
03. ดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ Kimetsu no Yaiba: Mugen Ressha-hen (ปี 2020) - 25,917 ล้านเยน (*รายได้ 39 วัน*)
04. Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (ปี 2014) - 25,500 ล้านเยน
05. your name. หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Kimi no Na wa.) (ปี 2016) - 25,030 ล้านเยน
06. Harry Potter and the Philosopher's Stone แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (ปี 2001) - 20,300 ล้านเยน**
07. Princess Mononoke เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร (Mononoke-hime) (ปี 1997) - 20,150 ล้านเยน**
08. Howl's Moving Castle ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ (Hauru no Ugoku Shiro) (ปี 2004) - 19,600 ล้านเยน
09. Odoru Daisosasen The Movie 2 Rainbow Bridge wo Fuusa Seyo! (ปี 2003) - 17,350 ล้านเยน
10. Harry Potter and the Chamber of Secrets แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ (ปี 2002) - 17,300 ล้านเยน

อันดับภาพยนตร์ที่มียอดขายบัตรเข้าชมภาพยนตร์สูงสุดตลอดกาลในญี่ปุ่น (อัพเดท 21-22 พ.ย. 2020)
01. Spirited Away มิติวิญญาณมหัศจรรย์ (Sen to Chihiro no Kamikakushi) (ปี 2001) - 23.5 ล้านใบ
02. Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (ปี 2014) - 20.03 ล้านใบ
03. Tokyo Olympiad (ปี 1965) - 19.5 ล้านใบ
04. ดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ Kimetsu no Yaiba: Mugen Ressha-hen (ปี 2020) - 19.4 ล้านใบ (*39 วัน*)
05. your name. หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Kimi no Na wa.) (ปี 2016) - 19.3 ล้านใบ
06. Titanic (ปี 1997) - 16.83 ล้านใบ
07. Harry Potter and the Philosopher's Stone แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (ปี 2001) - 16.2 ล้านใบ
08. Howl's Moving Castle ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ (Hauru no Ugoku Shiro) (ปี 2004) - 15.5 ล้านใบ
09. Princess Mononoke เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร (Mononoke-hime) (ปี 1997) - 14.2 ล้านใบ
10. Harry Potter and the Chamber of Secrets แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ (ปี 2002) - 14 ล้านใบ

Stand By Me Doraemon 2 ภาพยนตร์อนิเมชั่น 3DCG เนื้อหาเกือบทั้งหมดของภาคสองจะเป็นการอ้างอิงมาจากภาพยนตร์อนิเมชั่น
โดราเอมอน: คิดถึงคุณย่า (Doraemon: Obaachan no Omoide) ในปี 2000 (คว้ารางวัลภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม จาก Mainichi
Film Awards ครั้งที่ 55) แล้วเสริมด้วยเรื่องราวใหม่ ซึ่งได้นักแสดง Nobuko Miyamoto มาร่วมพากย์เป็นคุณย่าของ Nobita Nobi และ
ได้นักพากย์ชุดเดิม Megumi Oohara กลับมาพากย์เป็น Nobita Nobi วัยเด็ก, Wasabi Mizuta กลับมาพากย์เป็น Doaremon, Yumi
Kakazu กลับมาพากย์เป็น Shizuka Minamoto, Subaru Kimura กลับมาพากย์เป็น Takeshi Goda รวมไปถึง Satoshi Tsumabuki
ก็ตอบรับกลับมาพากย์เป็น Nobita Nobi วัยผู้ใหญ่อีกครั้งเช่นกัน อีกทั้งยังคงได้ Takashi Yamazaki กลับมารับหน้าที่เขียนบทและมา
ร่วมกำกับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้กับ Ryuichi Yagi เช่นเดียวกับภาคแรก เปิดตัวในอันดับที่ 2 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายใน
โรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์แรก (21-22 พ.ย. 2020) 386 ล้านเยน มียอดขายบัตรภาพยนตร์ 305,000 ใบ จาก 416 จอภาพยนตร์
(น้อยกว่าภาคแรกที่ทำเงินในช่วงสุดสัปดาห์แรก 9-10 ส.ค. 2014 ได้ไปถึง 767 ล้านเยน) แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น
วันแรก 20 พ.ย. 2020 (เดิมมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันแรก 7 ส.ค. 2020 แต่ต้องเลื่อนกำหนด เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก
การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19) และรวมรายได้จากวันหยุดพิเศษ วันขอบคุณแรงงาน (Kinrou Kansha no Hi) วันที่ 23 พ.ย. 2020
ทำให้กวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 671 ล้านเยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 542,037 ใบ

รูปภาพ

Doctor Death no Isan: Black File (The Legacy of Dr.Death: Black File) สัปดาห์ที่ 2 หล่นจากอันดับที่ 2 มาอยู่ในอันดับที่ 3
Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สอง (21-22 พ.ย. 2020) 75,516,040 เยน
(ลดลง 44% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์แรก) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 408,783,820 เยน

รูปภาพ

Tsumi no Koe (The Voice of Sin) สัปดาห์ที่ 4 หล่นจากอันดับที่ 3 มาอยู่ในอันดับที่ 4 Japan Box Office ทำเงินจากการ
เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สี่ (21-22 พ.ย. 2020) 50,340,450 เยน (ลดลง 29% เมื่อเทียบกับใน
ช่วงสุดสัปดาห์ที่สาม) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 974,986,050 เยน

รูปภาพ

The Legend of Hei (ชื่อในญี่ปุ่น Luo Xiaohei Senki: Boku ga Erabu Mirai) ภาพยนตร์อนิเมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
สัปดาห์ที่ 3 ขึ้นจากอันดับที่ 8 มาอยู่ในอันดับที่ 5 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วง
สุดสัปดาห์ที่สาม (21-22 พ.ย. 2020) 47,651,300 เยน (เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่สอง)
และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 210,158,428 เยน

รูปภาพ

Majo Minarai wo Sagashite (Looking for Magical DoReMi) สัปดาห์ที่ 2 หล่นจากอันดับที่ 4 มาอยู่ในอันดับที่ 6 Japan Box Office
ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สอง (21-22 พ.ย. 2020) 33,600,320 (ลดลง 35% เมื่อเทียบกับใน
ช่วงสุดสัปดาห์แรก) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 154,580,740 เยน

รูปภาพ

Eiga PreCure Miracle Leap: Minna to Fushigi na 1-nichi (Pretty Cure Miracle Leap: Everyone and the Mysterious 1 Day)
ภาพยนตร์อนิเมลำดับที่ 13 ของ Pretty Cure All Stars แต่เปฺ็นลำดับที่ 28 ของภาพยนตร์อนิเม Pretty Cure สัปดาห์ที่ 4 หล่นจาก
อันดับที่ 5 มาอยู่ในอันดับที่ 7 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สี่ (21-22 พ.ย. 2020)
23,746,710 เยน (ลดลง 39% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่สาม) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในญี่ปุ่นไปแล้ว 326,165,200 เยน

รูปภาพ

Kimi no Me ga Toikakete Iru (Your Eyes Tell) ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่นำเอาภาพยนตร์เกาหลีใต้ Always กอดคือสัญญา
หัวใจฝากมาชั่วนิรันดร์ เมื่อปี 2011 มาสร้างใหม่ สัปดาห์ที่ 5 หล่นจากอันดับที่ 6 มาอยู่ในอันดับที่ 8 Japan Box Office
ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ห้า (21-22 พ.ย. 2020) 25,539,740 เยน (ลดลง 36%
เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่สี่) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 779,208,780 เยน

รูปภาพ

Violet Evergarden the Movie จดหมายฉบับสุดท้าย...แด่เธอผู้เป็นที่รัก สัปดาห์ที่ 10 หล่นจากอันดับที่ 7 มาอยู่ในอันดับที่ 9
Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สิบ (21-22 พ.ย. 2020) 25,264,700 เยน
(เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่เก้า) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น 1,912,896,400 เยน
แซง K-On! the Movie (1,900 ล้านเยน) ขึ้นเป็นภาพยนตร์อนิเมทำเงินสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของสตูดิโอ Kyoto Animation

รูปภาพ


Paw Patrol: Ready Race Rescue! (ชื่อในญี่ปุ่น Pow Patrol Car Race Daisakusen GO! GO!) สัปดาห์ที่ 2 คงที่ในอันดับที่ 10
Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ 2 (21-22 พ.ย. 2020) 15,970,130 เยน
และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 47,121,230 เยน

รูปภาพ

Harry Potter and the Philosopher's Stone แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ กลับมาฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นอีกครั้งในระบบ
4DX3D และ MX4D3D เนื่องในโอกาสที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชน แฮร์รี่ พอตเตอร์ ของ J. K. Rowling
จะครบ 20 ปี ในปี 2021 สัปดาห์ที่ 3 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ 3
(21-22 พ.ย. 2020) 16,966,100 และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 142,459,300 เยน

รูปภาพ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา Kogyotsushin , Eiga

อันดับการ์ตูนขายดีที่ญี่ปุ่น ประจำวันที่ 24 พฤศจิกายน 2020

 -----------------------------------------------------------------------------------------------------------

อันดับที่ | ชื่อเรื่อง | (ลิขสิทธิ์ในไทย)

01. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 18 (SIC)
02. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 19 (SIC)
03. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 22 (SIC)
04. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 20 (SIC)
05. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 21 (SIC)
06. สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดีๆ ~สงครามประสาทความรักของเหล่าอัจฉริยะ~
Kaguya-sama wa Kokurasetai ~Tensai-tachi no Renai Zunousen~ เล่ม 20 (LP)
07. Grand Blue ก๊วนป่วนชวนบุ๋งบุ๋ง เล่ม 16 (LP)
08. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 15 (SIC)
09. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 16 (SIC)
10. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 17 (SIC)
 
11. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 14 (SIC)
12. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 12 (SIC)
13. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 13 (SIC)
14. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 6 (SIC)
15. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 5 (SIC)
16. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 4 (SIC)
17. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 3 (SIC)
18. Real เล่ม 15 (NED)
19. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 7 (SIC)
20. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 2 (SIC)

21. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 9 (SIC)
22. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 8 (SIC)
23. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 1 (SIC)
24. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 11 (SIC)
25. ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เล่ม 10 (SIC)
26. Overlord เล่ม 14 (DEX)
27. ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน Meitantei Conan Keisaku Gakkou-hen Wild Police Story ภาคต้น
28.  ผู้กล้าโล่ผงาด Tate no Yuusha no Nariagari เล่ม 17 (FP)
29. วัดป่วนชวนมารัก Temple เล่ม 4 (LP)
30. Ace of Diamond act II เล่ม 24 (SIC)



-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ดาบพิฆาตอสูร เล่มจบ มีเนื้อหาเพิ่มอีก 39 หน้า

สำนักพิมพ์ Shueisha แจ้งว่าหนังสือการ์ตูนเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba) ผลงานของ อ.Koyoharu Gotouge ฉบับรวมเล่ม 23
ซึ่งเป็นเล่มจบ มีกำหนดออกวางแผงที่ญี่ปุ่นในวันที่ 4 ธ.ค. 2020 โดยตอนอวสานในเล่มจบจะมีจำนวนหน้าแทรกเพิ่มเข้ามา 14 หน้า (แบ่งเป็น
8 หน้า กับ 6 หน้า) เนื่องจากนิตยสารการ์ตูน Shonen Jump ฉบับที่ลงพิมพ์ตอนจบ ไม่สามารถขอเพิ่มหน้าได้ จึงจำเป็นต้องต้องตัดออกไปก่อน
แล้วยังมีเนื้อหาเสริมอีก 25 หน้า รวมทั้งหมด 39 หน้า แล้วยังได้เปิดเผยให้ทราบว่าฉบับรวมเล่ม 23 มียอดพิมพ์ครั้งแรก 3.95 ล้านเล่ม มากกว่า
ฉบับรวมเล่ม 22 ที่มียอดพิมพ์ครั้งแรก 3.7 ล้านเล่ม แต่ก็ยังไม่ใช่หนังสือการ์ตูนฉบับรวมเล่มที่มียอดพิมพ์ครั้งแรกสูงที่สุด เพราะว่าการ์ตูนเรื่อง
One Piece ผลงานของ อ.Eiichiro Oda ฉบับรวมเล่ม 67 ยังคงเป็นเล่มที่มียอดพิมพ์ครั้งแรกสูงสุดถึง 4.05 ล้านเล่ม



อีกทั้งภายในวันเดียวกันก็จะมีหนังสือการ์ตูนที่นำเอาการ์ตูนภาคแยก Kimetsu no Yaiba: Tomioka Giyu Gaiden และ Kimetsu no Yaiba:
Rengoku Gaiden รับหน้าที่วาดภาพโดย อ.Ryouji Hirano มารวมเป็นฉบับรวมเล่มแบบเล่มเดียวจบ ใช้ชื่อเล่มว่า Kimetsu no Yaiba: Gaiden
สำหรับภาคแยกจะมียอดพิมพ์ฉบับรวมเล่มครั้งแรก 1 ล้านเล่ม นับว่าเป็นหนังสือการ์ตูนภาคแยกที่ไม่ได้เป็นผลงานของนักเขียนการ์ตูนต้นฉบับ
ที่มียอดพิมพ์ครั้งสูงสูดเป็นประวัติการณ์ของนิตยสารการ์ตูน Shonen Jump และสำนักพิมพ์ Shueisha สำหรับภาคแยก Rengoku ได้มีการนำ
ไปรวมไว้ในหนังสือการ์ตูน Rengoku เล่ม 0 ที่มีจำนวนหน้า 84 หน้า ซึ่งภายในเล่มก็จะมีบทสัมภาษณ์ทีมงานกับนักพากย์ด้วย มอบให้กับผู้ที่
ซื้อบัตรเข้าไปชมภาพยนตร์อนิเม ดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ (Kimetsu no Yaiba: Mugen Ressha-hen) เฉพาะที่ญี่ปุ่น 4.5 ล้านคนแรก
นอกจากนี้การ์ตูนเรื่องนี้ก็ยังจะมีสองเล่ม คือ Official Fanbook เล่ม 2 กับหนังสือรวมภาพวาดของ อ.Koyoharu Gotouge ออกวางแผงพร้อมกัน
ที่ญี่ปุ่นในวันที่ 4 ก.พ. 2021 อีกด้วย ซึ่งทั้งหนังสือการ์ตูนภาคหลัก, ภาคแยก, ฉบับนิยาย มียอดพิมพ์ทั้งหมดรวมกันในญี่ปุ่น 120 ล้านเล่มแล้ว



อ.Koyoharu Gotoge เขียนการ์ตูนเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร มาเริ่มลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Shonen Jump ฉบับที่ 11/2016
ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2016 โดยได้ขึ้นเป็นภาพปกนิตยสารฉบับนั้น พร้อมมีภาพสีเปิดตอนอีกด้วย และลงพิมพ์
ตอนจบในฉบับที่ 24/2020 ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2020 ปัจจุบันมีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว 22 เล่ม
ต่อมา อ.Aya Yajima นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปเขียนเป็นฉบับนิยาย เล่มแรกใช้ชื่อว่า ดาบพิฆาตอสูร ดอกไม้แห่งความสุข (Kimetsu no
Yaiba: Shiawase no Hana) ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2019 ซึ่งเด็กระดับชั้นประถมศึกษา 250,000 คน เลือกให้อยู่
ในอันดับ 10 จาก Kodomo no Hon Sousenkyo ครั้งที่ 2, ฉบับนิยาย เล่มสองใช้ชื่อว่า ดาบพิฆาตอสูร ผีเสื้อปีกเดียว (Kimetsu no
Yaiba: Kataha no Chou) ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2019 และฉบับนิยาย เล่มสามใช้ชื่อว่า Kimetsu no Yaiba: Kaze
no Michishirube ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2020 มียอดขายหนังสือการ์ตูนในญี่ปุ่นเกือบ 100 ล้านเล่มแล้ว

เรื่องราวในยุคไทโช (1912-1926) ทันจิโร่เด็กหนุ่มขายถ่านผู้แสนอ่อนโยน วันหนึ่งครอบครัวของเขาถูกอสูรฆ่าตาย
เพื่อหาทางช่วยเนซึโกะ น้องสาวที่โดนเปลี่ยนเป็นอสูรให้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง เขาจึงออกเดินทางเพื่อตามล่าอสูรที่ฆ่าครอบครัวของเขา



อ.Ryouji Hirano เจ้าของผลงานการ์ตูนเรื่อง Boze และ Bozebeats มารับหน้าที่วาดภาพให้การ์ตูนภาคแยก Kimetsu no Yaiba: Tomioka
Giyuu Gaiden ซึ่งเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเสาหลักวารี Giyuu Tomioka ความยาว 2 ตอนจบ ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน Shonen Jump ฉบับที่
18/2019 ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นเมือวันที่ 1 เม.ย. 2019 และฉบับที่ 19/2020 ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2019 ต่อมาเขียนภาคแยก
Kimetsu no Yaiba: Rengoku Kyojuro Gaiden ซึ่งเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเสาหลักเพลิง Kyojuro Rengoku ความยาว 2 ตอนจบ ลงพิมพ์ใน
ฉบับที่ 45/2020 ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2020 และฉบับที่ 46/2020 ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2020 นำมารวมเป็น
ฉบับรวมเล่มแบบเล่มเดียวจบ มีกำหนดออกวางแผงที่ญี่ปุ่นในวันที่ 4 ธ.ค. 2020





สตูดิโอ ufotable ยังได้นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปดัดแปลงเป็นทีวีอนิเม ความยาว 26 ตอนจบ เริ่มออกอากาศตอนแรกที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2019
จนกระทั่งจบลงในวันที่ 28 ก.ย. 2019 แต่ก่อนเริ่มออกอากาศทางทีวี เคยนำ 5 ตอนแรกของทีวีอนิเมเรื่องนี้ไปจัดฉายในรูปแบบภาพยนตร์อนิเม
ใน 11 โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาสองสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. 2019 ใช้ชื่อว่า Kimetsu no Yaiba: Kyoudai no Kizuna
แล้วยังได้มีการนำไปจัดฉายในโรงภาพยนตร์ Aratani Theatre ในเมือง Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา วันที่ 31 มี.ค. 2019 อีกทั้งสามารถ
คว้ารางวัลทีวีอนิเมยอดเยี่ยม, ตัวละครชายยอดเยี่ยม, ตัวละครหญิงยอดเยี่ยม, ออกแบบตัวละครฉบับอนิเมยอดเยี่ยม, เพลงประกอบยอดเยี่ยม
และผู้กำกับยอดเยี่ยม จาก Newtype Anime Awards ประจำปี 2018-2019 และสองรางวัลจาก Japan Character Award 2020

หลังจากทีวีอนิเม ดาบพิฆาตอสูร ตอนที่ 26 ออกอากาศจบลง ก็มีประกาศทำอนิเมภาคต่อโดยนำเนื้อเรื่องบทรถไฟแห่งอนันต์ (เริ่มตั้งแต่ตอนที่
53 ในฉบับรวมเล่ม 7 จนถึงตอนที่ 66 ในฉบับรวมเล่ม 8) มาสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมชื่อว่า ดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ซึ่งยังคงเป็นสตูดิโอ
ufotable ที่รับหน้าที่ผลิตฉบับภาพยนตร์อนิเม เช่นเดียวกับที่เคยเป็นผู้ผลิตฉบับทีวีอนิเมมาแล้ว โดยได้ Haruo Sotozaki กลับมารับหน้าที่กำกับ,
Akira Matsushima กลับมารับหน้าที่ออกแบบตัวละครฉบับอนิเม เช่นเดียวกับทีวีอนิเม สำหรับบรรดาพากย์หลักก็กลับมารับบทเดิมรวมครบถ้วน
Natsuki Hanae (พากย์เป็น Tanjirou Kamado), Akari Kitou (พากย์เป็น Nezuko Kamado), Hiro Shimono (พากย์เป็น Zenitsu Agatsuma),
Yoshitsugu Matsuoka (พากย์เป็น Inosuke Hashibira), Satoshi Hino (พากย์เป็น Kyojuro Rengoku) เข้าฉายที่ญี่ปุ่นไปเมื่อ 16 ต.ค. 2020
และสร้างปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ด้วยการกวาดรายได้ไปมากกว่า 25,000 ล้านเยน โดยใช้เวลาเพียงแค่ 38 วันเท่านั้น

LiSA ศิลปินสาวสายเพลงอนิเม ประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับ Gurenge ซิงเกิ้ลลำดับที่ 15 ซึ่งได้นำมาใช้เป็น Opening Theme
ให้กับทีวีอนิเม ดาบพิฆาตอสูร ก็ได้กลับมามีส่วนร่วมกับอนิเมเรื่องนี้อีกครั้งกับ Homura 炎 (ほむら) ซิงเกิ้ลลำดับที่ 17 ออกวางจำหน่าย
ที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2020 ซึ่งได้นำมาใช้เป็นเพลงประกอบ ดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ แล้วยังได้กลับมาร่วมงานอีกครั้งกับ
Yuki Kajiura (ก่อนหน้านั้น ทั้งคู่เคยได้ร่วมงานกันในเพลง from the edge ที่นำมาใช้เป็น Ending Theme ให้ทีวีอนิเม ดาบพิฆาตอสูร)
ซึ่งเป็นผู้ที่แต่งทำนอง, เรียบเรียง และเขียนเนื้อเพลง ซึ่ง LiSA ก็มีส่วนร่วมกับการเขียนเนื้อเพลงนี้อีกด้วย สำหรับ Homura ก็ได้รับตอบรับที่ดี
ไม่แพ้กัน ทำยอดขายแผ่นซีดีไป 196,116 แผ่น และมียอดดาวน์โหลดดิจิตอลซิงเกิ้ล 522,039 ครั้ง (สรุปยอดถึงวันที่ 16-22 พ.ย. 2020)
และได้รับการรับรองระดับ Gold จาก สมาคมอุตสาหกรรมบันทึกเสียงแห่งญี่ปุ่น (Recording Industry Association of Japan หรือ RIAJ)



ไม่เพียงแค่นั้น การ์ตูนเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร ยังได้มีการนำไปจัดแสดงในรูปแบบละครเวที ที่ The Galaxy Theater กรุงโตเกียว ตั้งแต่วันที่
18-26 ม.ค. 2020 ทั้งหมด 15 รอบ จากนั้นจะย้ายไปจัดแสดงต่อที่ AiiA 2.5 Theater Kobe เฮียวโงะ ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. 2020
ทั้งหมด 5 รอบ โดยได้ Kenichi Suemitsu มารับหน้าที่กำกับและเขียนบท และ Shunsuke Wada มารับหน้าที่ทำเพลงประกอบ



ที่มา Natalie

แจ้งข่าวการ์ตูน Luckpim : 25 พฤศจิกายน 2563

********************************************************

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2563

1. ฝ่านรกไซต์มรณะ เล่ม 14 Kentaro Sato 80 บาท

เอาละ.. มานำทางมนุษย์ชาติสู่ความสุขกันเถอะ

เทมเพรสเหลือเวลาอีกแค่ 10 วันเท่านั้น การกวาดล้างผู้ก่อกบฎของผู้ดูแลเว็บไซต์ก็ยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น!
อายะจะทำเช่นไรเมื่อพวกพ้องสาวน้อยเวทมนตร์ตกอยู่ในอันตราย!? และแล้วเวลาที่ "ราชา" ตื่นก็มาถึง!!

รูปภาพ

2. ผู้กล้าจ๋า เควสต์เมื่อวานมันฟินดีเนอะ เล่ม 2 Renjuro Kindaichi 80 บาท

ซัตสึกิ ทาคุมิ (วัย 25 ♂, แต่ในเกมเป็น ♀) ได้ตกลงแชร์บ้านกับคุณโกโร่
คนที่เขาเคยเชื่อสนิทว่าเป็นผู้ชายเหมือนกัน (ในเกมเป็น ♂ แต่ความเป็นจริง ♀)
ในระหว่างที่อาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน ก็ยังเกิดความเปลี่ยนแปลงอันแผ่ว——บางขึ้นกับความรู้สึกของคุณทาคุมิ?
ได้กินข้าวด้วยกัน ได้เล่น 'Dragon Quest X' ด้วยกัน แล้วยังจะได้ออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยกันอีกแน่ะ...♪

รูปภาพ

*********************************************************
ที่มา http://www.mangaqube.com