ได้ลงพิมพ์ตอนอวสานของการ์ตูนเรื่อง Steve Jobs สตีฟ จ็อบส์ ผลงานของ อ.Mari Yamazaki แล้ว


อ.Mari Yamazaki ผู้วาด สู้ต่อไป ลูเชียส!! (Thermae Romae) ได้นำหนังสือชีวประวัติ Steve Jobs สตีฟ จ็อบส์
ผลงานของ Walter Isaacson มาเขียนเป็นฉบับการ์ตูน เริ่มลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Hatsu Kiss ในเดือน มี.ค. 2013
รวมเป็นฉบับรวมเล่มออกแผงในญี่ปุ่น 5 เล่ม และเล่ม 6 ซึ่งเป็นเล่มจบ มีกำหนดออกวางแผงในญี่ปุ่น 13 ก.ค. 2017

จากเด็กที่ถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่แรกเกิด ใครจะนึกบ้างว่า สตีฟ จ็อบส์ จะกลายเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Apple
บริษัทที่ร่ำรวยด้วยความคิดสร้างสรรค์ และติดอันดับสุดยอดบริษัทชั้นนำของโลก
ประวัติศาสตร์ยังยกย่องเขาเทียบเท่ายอดนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างโธมัส อัลวา เอดิสัน เฮนรี่ ฟอร์ด
เป็นผู้บริหารธุรกิจแห่งยุคสมัยที่จะเป็นที่จดจำไปอีกนานนับศตวรรษ
สตีฟ จ็อบส์ อำลาโลกไปด้วยวัยเพียง 56 ปี แต่ผลงานที่เขาสร้างสรรค์ไว้นั้น
ได้เปลี่ยนประสบการณ์และวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนในโลกใบนี้ไปแล้วตลอดกาล
ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักสตีฟ จ็อบส์ ผ่านผลิตภัณฑ์ที่เขาสร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ Macintosh
ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็น iMac และนวัตกรรมพลิกโลกของเขา คือ iTunes, iPod, iPhone และล่าสุด คือ iPad
แต่ น้อยคนนักที่จะรู้จักเรื่องราวในชีวิตและตัวตนที่แท้จริงของสตีฟ จ็อบส์ รวมทั้งแนวคิดและบันดาลใจเบื้องหลังงานนวัตกรรมพลิกโลกของเขา
ซึ่งทั้ง หมดนี้ถูกเปิดเผยไว้ในหนังสือ สตีฟ จ็อบส์ ที่เขาให้ วอลเตอร์ ไอแซคสัน เป็นผู้เขียนขึ้นจากการให้ข้อมูลด้วยตัวเขาเองอย่างหมดเปลือก
"ผมไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกๆ ผมอยากให้ลูกเข้าใจในสิ่งที่ผมทำ อีกอย่าง พอผมป่วย ผมรู้ว่าถ้าผมตายไป ก็จะมีคนเขียนถึงผม
แต่เขาไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง เลยเข้าใจอะไรผิดๆ กันหมด ผมอยากให้คนได้ยินสิ่งที่ผมอยากพูด"
มหากาพย์ชีวิตของสตีฟ จ็อบส์ คือ ตำนานการสร้างซิลิคอน แวลเลย์ ที่เริ่มจากธุรกิจเล็กๆ ในโรงรถ
เติบโตจนกลายเป็นบริษัทที่มีค่ามากที่สุดในโลก เขาอาจไม่ใช่คนที่ประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมด้วยตนเองมากมายนัก
แต่จ็อบส์เป็นปรมาจารย์ในการประสานแนวคิด ความงามทางศิลปะ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันในแบบที่พลิกโลกพลิกอนาคต
ผู้นำหลายคนผลักดันให้เกิดนวัตกรรมได้ด้วยการมองภาพใหญ่
แต่บางคนอาจทำได้ด้วยการให้ความสำคัญกับการลงรายละเอียด จ็อบส์ทำได้ทั้งสองอย่างและทำอย่างไม่ลดละ ผลลัพธ์ คือ
เขาสามารถผลักดันและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่พลิกโลกอุตสาหกรรมหลายอย่าง ได้ตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา
จ็อบส์ไม่ได้เป็นแค่มนุษย์ฉลาดปราดเปรื่อง แต่เขาคืออัจฉริยะ
หากมองถึงจินตนาการอันก้าวไกลของเขาซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากสัญชาตญาณ เหนือความคาดคิด
จ็อบส์คือตัวอย่างของสิ่งที่นักคณิตศาสตร์อย่างมาร์ก แค็ค เรียกว่า อัจฉริยะแบบนักมายากล
หยั่งรู้ได้เองและต้องอาศัยญาณพิเศษ มากกว่าพลังความคิดด้วยสติปัญญา
สตีฟ จ็อบส์มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ว่าอยากจะพลิกโลกใบนี้ และมุ่งมั่นอยู่กับความฝันนั้นจนตลอดชีวิต
และในวันที่จากไป โลกได้จดจำเขาว่า สตีฟ จ็อบส์ อัจฉริยะผู้พลิกโลก

ที่มา Hatsu Kiss 2017 July
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น