นำแสดงโดย Junichi Okada รับบทเป็น Mitsunari Ishida, Koji Yakusho รับบทเป็น Ieyasu Tokugawa, Kasumi Arimura รับบทเป็น
Hatsume เปิดตัวในอันดับ 1 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (26-27 ส.ค. 2017) 395,870,100 เยน
มียอดขายบัตรภาพยนตร์ 312,431 ใบ จากจำนวนโรงภาพยนตร์ที่จัดฉาย 360 โรง
Despicable Me 3 มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด 3 (ชื่อในญี่ปุ่น Kaitou Gru no Minion dai Dassou) ดำเนินเรื่องมาถึงภาคที่สามกันแล้ว
สำหรับ ภาพยนตร์อนิเมชั่นชุดนี้ของ Illumination Entertainment สัปดาห์ที่ 6 คงที่ในอันดับ 2 Japan Box Office เช่นเดียวกับสัปดาห์ที่ 5
ทำเงินจากการเข้าฉายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มไปอีก 231,030,300 เยน (ลดลง 16% เมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์ที่ห้า)
และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 6,202,843,700 เยน
Wonder Woman ภาพยนตร์เดี่ยวครั้งแรกของวันเดอร์ วูแมน และเป็นเรื่องที่สี่ใน DC Extended Universe (DCEU) ผลงานกำกับโดย
Patty Jenkins ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นผู้กำกับหญิงฮอลลีวู้ดที่มีค่าตัวสูงสุดแล้วจากข้อตกลงเกี่ยวกับภาพยนตร์ภาคต่อของวันเดอร์ วูแมน
เขียนบทโดย Allan Heinberg นำแสดงโดย Gal Gadot รับบทเป็น Wonder Woman อีกครั้ง (ฉบับเสียงญี่ปุ่นโดยนักพากย์ Yuko Kaida)
หลังจากปรากฎตัวเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์ Batman v Superman: Dawn of Justice แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน: แสงอรุณแห่งยุติธรรม
(ปี 2016) และ Chris Pine รับบทเป็น Steve Trevor (ฉบับเสียงญี่ปุ่นโดยนักพากย์ Daisuke Ono) ทำเงินจากการเข้าฉายในช่วงสุดสัปดาห์
ที่ผ่านมา (26-27 ส.ค. 2017) 266,512,000 เยน มียอดขายบัตรภาพยนตร์ 182,092 ใบ จากจำนวนโรงภาพยนตร์ที่จัดฉายทั้งหมด 596 โรง
(รายได้ในสุดสัปดาห์แรกน้อยกว่า Batman v Superman: Dawn of Justice 28%, น้อยกว่า Suicide Squad ทีมพลีชีพมหาวายร้าย 32%)
แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันแรก 25 ส.ค. 2017 รวมรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์สามวันแรก
(25-27 ส.ค. 2017) 370,245,700 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 257,266 ใบ
Uchiage Hanabi, Shita kara Miru ka? Yoko kara Miru ka? (Fireworks, Should We See it from the Side or the Bottom?)
ภาพยนตร์อนิเมที่อ้างอิงเรื่องราวจากฉบับละครทีวีในปี 1993 ของผู้กำกับ Shunji Iwai ผลิตโดยสตูดิโอ Shaft ประกอบด้วยทีมงานหลัก
ได้แก่ Akiyuki Shinbo หัวหน้าทีมกำกับ, Nobuyuki Takeuchi รับหน้าที่กำกับ, Hiroshi Oune รับหน้าที่เขียนบท, Akio Watanabe
รับหน้าที่ออกแบบตัวละครฉบับอนิเม สำหรับบทนำได้นักแสดง Suzu Hirose กับ Masaki Suda มารับบทเป็น Nazuna Oikawa กับ
Norimichi Shimada และนักพากย์ Mamoru Miyano มารับบทเป็น Yusuke Azumi สัปดาห์ที่ 2 หล่นจากอันดับ 3 มาอยู่ในอันดับ 4
Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มไปอีก 156,869,600 เยน (ลดลง 47% เมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์แรก)
และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 913,649,100 เยน
Kimi no Suizo wo Tabetai (I Want to Eat Your Pancreas) ภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายในชื่อเดียวกันผลงานของ อ.Yoru Sumino
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวฉัน (Takumi Kitamura) เด็กหนุ่มหนอนหนังสือผู้ไม่สนใจโลก แอบชอบ Sakura Yamauchi (Minami Hamabe)
สาวสวยสดใสขวัญใจหนุ่มๆ ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็วเนื่องจากชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน แต่แล้ววันหนึ่งซากุระก็บอกกับเขาว่า
เธอกำลังจะตายด้วยโรคมะเร็งตับ ตัวฉัน (Shun Oguri) กลับมาเป็นคุณครูที่โรงเรียนเดิมใน 12 ปีต่อมาหลังจากที่ซากุระได้เสียชีวิตไป
ที่นั่นเขาพบสมุดบันทึกที่ซากุระซ่อนไว้เมื่อเขาเปิดบันทึกออกอ่านความทรงจำของเธอ และความรักที่เธอไม่เคยบอกใครก็ถูกเปิดเผยขึ้น
ทีละหน้า ทีละหน้า ผ่านเรื่องราวของความรักอีกด้าน ที่อาจไม่เคยได้เปิดใจมองเห็น แม้มันจะอยู่ตรงหน้ามาตลอดก็ตาม ผลงานกำกับของ
Sho Tsukikawa (ย้อนรัก 100 ครั้ง ก็ยังเป็นเธอ. Kimi to 100 Kaime no Koi) สัปดาห์ที่ 5 ยังคงที่ในอันดับ 5 Japan Box Office
เช่นเดียวกับสัปดาห์ที่ 4 ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มไปอีก 125,191,100 เยน
(ลดลง 23% เมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์ที่สี่) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 2,577,371,200 เยน
HiGH&LOW THE MOVIE 2 END OF SKY สัปดาห์ที่ 2 หล่นจากอันดับ 1 มาอยู่ในอันดับ 6 Japan Box Office
ทำเงินจากการเข้าฉายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มไปอีก 120,256,500 เยน (ลดลง 66% เมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์แรก)
และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 759,181,800 เยน
Spider-Man: Homecoming ภาพยนตร์เดี่ยวของสไปเดอร์แมนใน Marvel Cinematic Universe ดำเนินเรื่องราวต่อจาก
Captain America: Civil War สัปดาห์ที่ 3 หล่นจากอันดับ 4 มาอยู่ในอันดับ 7 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉาย
ในโรงภาพยนตร์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มไปอีก 140,689,300 เยน (ลดลง 44% เมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์ที่สอง)
และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 2,260,122,800 เยน
Pocket Monsters: Kimi ni Kimeta! (Pokemon: I Choose You!) ภาพยนตร์อนิเมภาคที่ 20 แล้วก็เป็นการ่วมฉลองครบ 20 ปีของโปเกมอน
นำเอาเรื่องราวจากทีวีอนิเม Pokemon: Indigo League ตอนที่ 1 ออกอากาศที่ญี่ปุ่นไปเมื่อ 1 เม.ย. 1997 มาสร้างใหม่และเล่าขยายความ
ผลงานกำกับโดย Kunihiko Yuyama และเขียนบทโดย Shoji Yonemura สัปดาห์ที่ 7 หล่นจากอันดับ 6 มาอยู่ในอันดับ 8 Japan Box Office
ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มไปอีก 70,576,500 เยน (ลดลง 29% เมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์ที่หก)
และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 3,184,546,100 เยน
Mary to Majo no Hana (Mary and the Witch's Flower) ภาพยนตร์อนิเมเรื่องแรกจาก Studio Ponoc ก่อตั้งโดยผู้กำกับ
Hiromasa Yonebayashi และโปรดิวเซอร์ Yoshiaki Nishimura อดีตทีมงานของ Studio Ghibli ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง
The Little Broomstick ผลงานของ Mary Stewart เล่าเรื่องราวผ่านเด็กสาวอย่าง แมรี่ ที่พบว่าตัวเองมีพลังวิเศษเป็นเวลา 1 คืน
โดยเธอเดินทางไปยังโลกเวทมนตร์และได้ค้นพบความลับอันดำมืดบางอย่าง ซึ่งทำให้เธอต้องหาทางหยุดยั้งมันให้ได้ สัปดาห์ที่ 8
ยังคงที่ในอันดับ 9 Japan Box Office เช่นเดียวกับสัปดาห์ที่ 7 ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มไปอีก
55,098,800 เยน (ลดลง 25% เมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์ที่เจ็ด) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 3,022,973,500 เยน
กินทามะ ซามูไรเพี้ยนสารพัด ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง กินทามะ (Gintama) ผลงานของ อ.Hideaki Sorachi รับหน้าที่กำกับและ
เขียนบทภาพยนตร์โดย Yuuichi Fukuda (เทพบุตรหลุดโลก Hentai Kamen, พ่อปรัชญา ฮาหน้าตาย Nietzsche-sensei) นำแสดงโดย
Shun Oguri รับบทเป็น Gintoki Sakata, Masaki Suda รับบทเป็น Shinpachi Shimura, Kanna Hashimoto รับบทเป็น Kagura สัปดาห์ที่ 7
หล่น จากอันดับ 8 มาอยู่ในอันดับ 10 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มไปอีก 53,153,600 เยน
(ลดลง 36% เมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์ที่หก) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 3,638,393,900 เยน
ที่มา Kogyotsushin ,Eiga
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น