Haikara-san ga Tooru Kouhen - Hana no Tokyo Dai Roman ที่มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในวันที่ 19 ต.ค. 2018
ซึ่งเผยให้เห็น Benio Hanamura นางเอกของเรื่อง (พากย์โดย Saori Hayami) เข้าไปในแมนจูเรีย (Manchuria) เพื่อตามหาคู่หมั้น
Shinobu Ijuin (พากย์โดย Mamoru Miyano) ที่หายตัวไป สำหรับ Atarashii Ashita ซิงเกิ้่ลลำดับที่ 5 ของนักพากย์ Saori Hayami
ที่มีกำหนดออกวางจำหน่ายในญี่ปุ่น 19 ก.ย. 2018 ได้นำมาใช้่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์อนิเมภาคสองซึ่งยังคงได้ Mariya Takeuchi
มาเขียนเนื้่อเพลงและแต่งทำนองให้อีกครั้ง หลังจากทั้งคู่ต่างก็เคยได้ร่วมงานกันมาแล้วในเพลงประกอบภาพยนตร์อนิเมภาคแรก
ภาพปกซีดีซิงเกิ้ล Atarashii Ashita
Kazuhiro Furuhashi (ALTAIR ดาวจรัสฟ้า อินทรีถลาลม, ซามูไรพเนจร Rurouni Kenshin) เขียนบทภาพยนตร์ Benio, Hana no 17-sai.
และ Hana no Tokyo Dai Roman แล้วยังได้ควบตำแหน่งผู้กำกับภาพยนตร์อนิเมภาคแรกด้วย แต่ภาพยนตร์อนิเมภาคสองได้ส่งไม้ต่อให้
Mitsuko Kase (Young Black Jack) มารับหน้าที่กำกับ, Terumi Nishii (Mawaru Penguindrum, JOJO ล่าข้ามศตวรรษ Part 4) ออกแบบ
ตัวละครฉบับอนิเม, Michiru Oshima (Fullmetal Alchemist) ทำดนตรีประกอบ และผลิตอนิเมโดย Nippon Animation (Chibi Maruko-chan)
Maaya Sakamoto (Ciel Phantomhive - Black Butler คน(ลึก)ไขปริศนา(ลับ), Shinobu Oshino - Kizumonogatari ปกรณัมของตำหนิ)
ก็เข้ามาร่วมพากย์ในภาพยนตร์อนิเม ภาคสอง โดยมารับบทเป็น Larisa ภรรยาของ Sasha ชนชั้นสูงจากรัสเซียที่อพยพเข้ามาอยู่ในญี่ปุ่น
อ.Waki Yamato เขียนการ์ตูนเรื่อง สงครามกับความรัก ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน Shoujo Friend ในปี 1975-1977
(Shoujo Friend เริ่มแรกออกวางแผงเป็นรายสัปดาห์ในปี 1962-1974 แล้วปรับเปลี่ยนเป็นรายปักษ์ในปี 1974-1991
ต่อมาเปลี่ยนมาออกวางแผงเป็นรายเดือนในปี 1991 และออกวางแผงฉบับสุดท้ายในเดือน ก.ย. 1996 แล้วจึงได้ปิดตัวไป)
มีฉบับรวมเล่มพิมพ์ครั้งแรกทั้งหมด 8 เล่มจบ ต่อมาได้มีการนำกลับมาพิมพ์ใหม่อีกสองครั้ง ฉบับพิมพ์ครั้งที่สอง แบบ 4 เล่มจบ
ในปี 1995 และฉบับพิมพ์ครั้งที่สาม แบบ 8 เล่มจบ ในปี 2002 ไม่เพียงเท่านั้นการ์ตูนนี้เรื่องยังเคยได้รับรางวัลการ์ตูนผู้หญิงยอดเยี่ยม
จาก Kodansha Manga Award ครั้งที่ 1 ในปี 1977 โดยรับรางวัลนี้ร่วมกับการ์ตูนเรื่อง Candy Candy ที่เป็นผลงานร่วมของ
อ.Kyoko Mizuki (เนื้อเรื่อง) กับ อ.Yumiko Igarashi (วาดภาพ) เป็นการ์ตูนคลาสสิคอีกเรื่องที่นักอ่านการ์ตูนรุ่นเก่าในไทยคุ้นกันดี
Nippon Animation ได้นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปดัดแปลงเป็นทีวีอนิเม ความยาว 42 ตอนจบ ออกอากาศในปี 1978-1979 ซึ่งอนิเมเรื่องนี้
ติดอันดับที่ 95 จาก 100 อันดับอนิเมยอดนิยมตลอดกาล ที่ทาง TV Asahi จัดสำรวจในปี 2005 ด้วย สำหรับผู้ที่สนใจอนิเมเรื่องนี้
อยากสะสมก็มีผลิต Blu-ray และ DVD Box Set ทั้งชุด 7 แผ่น ครบทั้ง 42 ตอน ออกมาวางจำหน่ายเมื่อ 21 ธ.ค. 2016 ที่ผ่านมา
เนื่องในโอกาสร่วมฉลองให้กับ อ.Waki Yamato ที่อยู่ในวงการนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นมานาน 50 ปีก็มีโครงการนำการ์ตูนเรื่อง สงครามกับความรัก
สร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมภาคแรก Benio, Hana no 17-sai. เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น 11 พ.ย. 2017 ออกวางจำหน่ายในรูปแบบ Blu-ray
กับ DVD ที่ญี่ปุ่นไปเมื่อ 25 เม.ย. 2018 และภาคสอง Hana no Tokyo Dai Roman มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น 19 ต.ค. 2018
ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่อนิเมจากการ์ตูนเรื่องนี้สร้างจนจบเนื้อหาตามหนังสือการ์ตูนต้นฉบับอีกด้วย
คณะละครหญิงล้วน Takarazuka ยังได้นำการ์ตูนเรื่อง สงครามกับความรัก ไปจัดแสดงในรูปแบบละครเวที แนวละครเพลง อีกด้วย
รับหน้าที่กำกับและเขียนบทโดย Naoko Koyonagi และ Rei Yuzuka มารับบทนำเป็น Benio Hanamura จัดแสดงที่
Umeda Arts Theater โอซาก้า วันที่ 7-15 ต.ค. 2017 และ Nippon Seinenkan Hall โตเกียว วันที่ 24-30 ต.ค. 2017
การ์ตูนเรื่องนี้ยังได้มีการนำไปดัดแปลงเป็นละครทีวีมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกในปี 1979 ออกอากาศทาง Kansai TV, ครั้งที่สองในปี 1985
ออกอากาศทาง Fuji TV, ครั้งที่สามในปี 2002 ออกอากาศทางสถานี TBS แล้วนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งครั้งในปี 1987 โดย Toei
ภาพปก DVD ภาพยนตร์ สงครามกับความรัก (ปี 1987)
นำแสดงโดย Yoko Minamino (Benio Hanamura) กับ Hiroshi Abe (Shinobu Ijuin)
เรื่องราวในสมัยโทโช ช่วงเวลาแห่งความโรแมนติก ฮานามุระ เบนิโอะ สาวนักศึกษาหัวสมัยใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมในเวลานั้น
ทั้งยังเป็นม้าดีดกะโหลกแก่นแก้วขี้เหล้า แต่จู่ๆ ผู้หมวดอิจูอินที่จะมาเป็นคู่หมั้นของเธอปรากฏตัวขึ้น! จะต้องแต่งงานที่ผู้ใหญ่เลือกให้งั้นเหรอ!?
ภาพปกฉบับพิมพ์ครั้งแรก 8 เล่มจบ (เล่ม 1-7 และภาคพิเศษรวมเรื่องสั้น) พิมพ์ออกมาในปี 1975-1977
ภาพปกฉบับพิมพ์ครั้งที่สอง 4 เล่มจบ พิมพ์ออกมาในปี 1995
ภาพปกฉบับพิมพ์ครั้งที่สาม 8 เล่มจบ ฉบับลิขสิทธิ์ภาษาไทย พิมพ์ออกมาในปี 2012-2014 (ฉบับญี่ปุ่น พิมพ์ออกมาในปี 2002)
ภาพปกฉบับพิมพ์ครั้งที่ 4 ทั้งชุด 8 เล่มจบ ในปี 2016-2017
ที่มา Natalie , Frost Moon Project Diary , Kyouin15 , Haikarasan
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น