Katahane no Chou นิยายเล่มสองจากการ์ตูนเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร ผลงานของ อ.Aya Yajima ออกวางแผงในญี่ปุ่นพร้อมกันไปเมื่อ
วันที่ 4 ต.ค. 2019 ที่ผ่านมา โดยสายคาดปกที่มาพร้อมกับหนังสือการ์ตูนเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร ฉบับรวมเล่ม 17 ได้เปิดเผยให้ทราบว่า
มียอดพิมพ์ทั้งหนังสือการ์ตูนและนิยายรวมกันในญี่ปุ่น 12,000,000 เล่ม อีกทั้งสายคาดปกที่มาพร้อมกับนิยาย Katahane no Chou
ก็แจ้งให้ทราบว่ามียอดพิมพ์เฉพาะฉบับนิยายจากการ์ตูนเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร ทั้งสองเล่ม รวมกันในญี่ปุ่น 200,000 เล่ม ซึ่งทวิตเตอร์
อย่างเป็นทางการของ JUMP j BOOKS แจ้งว่าแก้ข้อมูลที่สายคาดปกไม่ทัน แต่จริงๆแล้วฉบับนิยายมียอดพิมพ์รวมกัน 300,000 เล่ม
อ.Koyoharu Gotoge เขียนการ์ตูนเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร มาเริ่มลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Shonen Jump ฉบับที่ 11/2016
(15 ก.พ. 2016) โดยได้ขึ้นเป็นภาพปกนิตยสารฉบับนั้น และมีภาพสีเปิดตอนอีกด้วย ปัจจุบันมีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว
17 เล่ม ยังไม่จบ และ อ.Aya Yajima นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปเขียนเป็นฉบับนิยาย เล่มแรกชื่อว่า Kimetsu no Yaiba: Shiawase no Hana
(4 ก.พ. 2019) และฉบับนิยาย เล่มสองชื่อว่า Kimetsu no Yaiba: Katahane no Chou (4 ต.ค. 2019)
สตูดิโอ Ufotable ยังได้นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปดัดแปลงเป็นทีวีอนิเม ความยาว 26 ตอนจบ เริ่มออกอากาศตอนแรกที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่
6 เม.ย. 2019 แต่ก่อนหน้าที่นำมาออกอากาศทางทีวี เคยนำ 5 ตอนแรกของทีวีอนิเมเรื่องนี้ไปจัดฉายในรูปแบบภาพยนตร์อนิเมใน
11 โรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นเป็๋นระยะเวลาสองสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. 2019 ใช้ชื่อว่า Kimetsu no Yaiba: Kyoudai no Kizuna
แล้วยังมีการนำไปจัดฉายในโรงภาพยนตร์ Aratani Theatre ในเมือง Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา วันที่ 31 มี.ค. 2019 และ
ประกาศทำอนิเมภาคต่อโดยนำเนื้อเรื่องบทรถไฟแห่งอนันต์ (เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 53 ในฉบับรวมเล่ม 7 จนถึงตอนที่ 66 ในฉบับรวมเล่ม 8)
มาสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมชื่อว่า Kimetsu no Yaiba: Mugen Ressha-hen แต่ยังไม่ได้แจ้งกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น
เรื่องราวในยุคไทโช (1912-1926) ทันจิโร่เด็กหนุ่มขายถ่านผู้แสนอ่อนโยน วันหนึ่งครอบครัวของเขาถูกอสูรฆ่าตาย
เพื่อหาทางช่วยเนซึโกะ น้องสาวที่โดนเปลี่ยนเป็นอสูรให้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง เขาจึงออกเดินทางเพื่อตามล่าอสูรที่ฆ่าครอบครัวของเขา
ที่มา JUMP j BOOKS , vvsendailoft
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น