วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ไซเบอร์เพชฌฆาต GUNNM Mars Chronicle ภาคลำนำดาวแดง ประกาศหยุดลงพิมพ์ตอนใหม่สองเดือน เริ่มตั้งแต่ฉบับที่ 24/2019

การ์ตูนเรื่อง ไซเบอร์เพชฌฆาต GUNNM Mars Chronicle ภาคลำนำดาวแดง (GUNNM Kasei Senki) ผลงานของ อ.Yukito Kishiro
หน้าสุดท้ายของตอนที่ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน Evening ฉบับที่ 23/2019 (12 พ.ย. 2019) ประกาศให้ทราบว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะหยุด
ลงพิมพ์ตอนใหม่ในนิตยสารการ์ตูน Evening เริ่มตั้งแต่ฉบับที่ 24/2019 ที่มีกำหนดออกวางแผงที่ญี่ปุ่นวันที่ 26 พ.ย. 2019 เป็นต้นไป
แล้วจะกลับมาลงพิมพ์ตอนต่อไปในฉบับที่ 4/2020 ที่มีกำหนดออกวางแผงในญี่ปุ่นวันที่ 28 ม.ค. 2020

ก่อนหน้านั้น อ.Yukito Kishiro เคยเขียนภาคลำนำดาวแดง เพียงแค่ 5 หน้า นำมาลงพิมพ์ในฉบับที่ 18/2019 (27 ส.ค. 2019) ซึ่งจำนวนหน้า
ที่น้อยลงแบบผิดปกติมากแบบนี้นั้น ก็เป็นเหตุมาจากมีอาการป่วยแบบกะทันหัน แล้วก็มีประกาศหยุดเขียนตอนใหม่สองครั้งในฉบับที่ 19/2019
(10 ก.ย. 2019) และฉบับที่ 20/2019 (24 ก.ย. 2019) แล้วจึงกลับมาลงพิมพ์ตอนต่อไปในฉบับที่ 21/2019 (8 ต.ค. 2019)



อ.Yukito Kishiro เขียนการ์ตูนเรื่อง ไซเบอร์เพชฌฆาต GUNNM (ชื่อฉบับลิขสิทธิ์ภาษาไทยของสนพ.Vibulkij) หรือ เพชฌฆาตไซบอร์ก
(ชื่อฉบับลิขสิทธิ์ภาษาไทยของ Siam Inter Comics) หรือ Battle Angel Alita (ชื่อฉบับลิขสิทธิ์ภาษาอังกฤษ) ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน
Business Jump (Shueisha) ในปี 1990-1995 รวมเป็นฉบับรวมเล่มพิมพ์ครั้งแรกทั้งหมด 9 เล่มจบ สตูดิโอ Madhouse นำการ์ตูนเรื่องนี้
ไปดัดแปลงเป็น Original Video Animation (OVA) ทั้งหมดสองตอน คือ Rusty Angel ครอบคลุมเนื้อหาในฉบับรวมเล่ม 1 ออกวางจำหน่าย
ที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 1993 และ Tears Sign ครอบคลุมเนื้อหาในฉบับรวมเล่ม 2 ออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 1993

เหตุเกิดขึ้น ณ โลกเหนือผืนปฐพีที่อยู่ภายใต้การปกครองแห่งนครเวหาซาเล็ม
อิโดะ นายแพทย์ไซเบอร์ผู้อาศัยอยู่ในเมืองเศษเหล็กได้ค้นพบส่วนศีรษะของสาวน้อยไซบอร์กฝังอยู่กับกองเศษซากวัสดุ
จากนั้นเขาก็ได้ชุบชีวิตเธอขึ้นมา พร้อมกับตั้งชื่อว่า "กัลลี" แต่แล้วในตัวสาวน้อยกลับมี "ความทรงจำแห่งสายเลือดคะนองศึก" หลับใหลอยู่...!!

ภาพปกหนังสือการ์ตูน ไซเบอร์เพชฌฆาต GUNNM ฉบับเล่มหนา ทั้งชุด 4 เล่มจบ
(เวอร์ชั่น Platinum ของสนพ.Kodansha ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นในปี 2016)



ต่อมา อ.Yukito Kishiro ลงมือเขียนภาคต่อ ไซเบอร์เพชฌฆาต GUNNM Last Order ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน Ultra Jump ในปี 2000-2010
แต่หยุดลงพิมพ์เนื่องจากมีความขัดแย้งกับบรรณาธิการของนิตยสารการ์ตูน Ultra Jump เกี่ยวกับการขอร้องให้แก้ไขบทพูดใน ไซเบอร์เพชฌฆาต
GUNNM ฉบับรวมเล่ม 1,3-4 ซึ่งจะมีการพิมพ์ใหม่ ทำให้มีการประกาศย้ายไปลงพิมพ์ต่อในนิตยสารการ์ตูน Evening (Kodansha) ตั้งแต่ปี 2011
จนกระทั่งจบลงในปี 2014 รวมเป็นฉบับรวมเล่มพิมพ์ครั้งแรกทั้งหมด 19 เล่มจบ

สาวน้อยผู้หนึ่งจำต้องตกอยู่ในวังวนแห่งโชคชะตาการศึก แต่เธอคงยืนหยัดอาจหาญต่อต้านการครอบงำจากนครเวหาซาเล็ม
กระทั่งสามารถสู้เอาชนะนักวิทยาศาสตร์คลั่ง ดิสตี้ โนวา ได้ แต่หลังจากนั้นเธอกลับติดกับดักโฉดชั่ว และแล้ว----
เมื่อเวลาผ่านไป กัลลี ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมพบว่าโนวาที่ตนเคยฆ่าไปนั้นยังไม่ตาย ทั้งซาเล็มก็ตกอยู่ในสภาพโกลาหลครั้งใหญ่หลวง

ภาพปกหนังสือการ์ตูน ไซเบอร์เพชฌฆาต GUNNM Last Order: New Edition ทั้งชุด 12 เล่มจบ
(เวอร์ชั่นนี้ของสนพ.Kodansha ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นในปี 2011-2014)



หลังจากเขียน ไซเบอร์เพชฌฆาต GUNNM Last Order จบลงไปแล้ว ก็เขียนภาคสุดท้ายในชื่อว่า ไซเบอร์เพชฌฆาต GUNNM Mars Chronicle
ภาคลำนำดาวแดง (GUNNM Kasei Senki) ซึ่งยังคงลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน Evening เช่นเดิม เริ่มตอนแรกในฉบับที่ 22/2014 (28 ต.ค. 2014)
พร้อมทั้งขึ้นเป็นภาพปกให้กับนิตยสารฉบับนั้นด้วย ปัจจุบันมีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว 6 เล่ม ยังไม่จบ

โยโกะ เด็กกำพร้าผู้มีร่างกายไม่สมประกอบ ด้วยเหตุจากพลังสงครามดาวอังคาร แต่แล้วชะตากรรมกลับพลิกผัน
เมื่อพบกับวิชาจักรกลยุทธ์ พันเซอร์คุนซต์ กระทั่งกลายเป็นนักรบยอดฝีมือได้อย่างไร

กัลลี นักรบผู้ดั้นด้นไปยังดาวอังคาร เพื่อสืบหาความเป็นไปได้ในอดีตของตนเอง
เธอจะพบความจริงเรื่องใดจากการเดินทางอันแสนยาวนาน
โยโกะในครั้งอดีต กัลลีในอนาคต เมื่อเรื่องราวของทั้งสองมาเชื่อมโยงกัน ปริศนาทั้งหมดก็จะกระจ่าง!!



ไม่เพียงเท่านั้น James Cameron นำการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ไซเบอร์เพชฌฆาต GUNNM ไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ใช้ชื่อว่า Alita: Battle Angel
ซึ่งนอกจากเป็นผู้อำนวยการสร้างร่วมกับ Jon Landau แล้วยังร่วมเขียนบทกับ Laeta Kalogridis แล้วให้ Robert Rodriguez รับหน้าที่กำกับ
Rosa Salazar รับบทนำเป็น Alita ร่วมด้วย Christoph Waltz (Dr. Dyson Ido), Keean Johnson (Hugo), Jennifer Connelly (Dr. Chiren),
Ed Skrein (Zapan), Jackie Earle Haley (Grewishka), Mahershala Ali (Vector) เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาไปเมื่อวันที่
14 ก.พ. 2019 เปิดตัวในอันดับ 1 USA Box Office กวาดรายได้รวมทั่วโลก 404.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศไทยเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
ก่อนประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงหนึ่งวัน สำหรับประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีการ์ตูนที่เป็นต้นฉบับของภาพยนตร์เรื่องนี้ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปเมื่อวันที่
22 ก.พ. 2019 เปิดตัวในอันดับ 2 Japan Box Office กวาดรายได้รวมไป 854,913,753 เยน (สรุปรายได้จนถึงวันที่ 9-10 มี.ค. 2019)



ที่มา Evening 2019 Vol.23

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น