เว็บไซต์ Oricon รายงานข่าวว่าภาพยนตร์เรื่อง Mimi wo Sumaseba (Whisper of
the Heart) ซึ้งสร้างจากหนังสือการ์ตูนชื่อเดียวกันผลงานของ
อ.Aoi
Hiiragi ที่มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในวันที่ 18 ก.ย. 2020
ถูกเลื่อนกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งแผนการ
แรกเริ่มเดิมนั้นจะมีการยกกองไปถ่ายทำเนื้อเรื่องส่วนที่สองของภาพยนตร์เรื่องนี้ในต่างประเทศ
แต่เนื่องจากการแพรระบาดของไวรัส COVID-19
ทำให้จำเป็นต้องหยุดพักการถ่ายทำเป็นการชั่วคราว แต่ยังไม่มีการแจ้งกำหนดเข้าฉายครั้งใหม่ในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นออกมาในขณะนี้
Yuichiro Hirakawa ซึ่งมีผลงานกำกับภาพยนตร์จากหนังสือการ์ตูนมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ Rookies มือใหม่ไฟแรง, รีไววัล ย้อนอดีตไขปริศนา
Boku Dake ga Inai Machi, รอวันหัวใจผลิบาน Harumatsu Bokura และ The Promised Neverland พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ ซึ่งจะเข้าฉาย
ในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงปลายปี
2020 มารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่อง Mimi wo Sumaseba
ซึ่งเขาตั้งใจที่จะแบ่งเนื้่อเรื่องทั้งหมดออก
เป็นสองส่วน คือ บทอดีต
(Ano Koro) ซึ่งอ้างอิงเรื่องราวจากหนังสือการ์ตูนต้นฉบับ และบทปัจจุบัน
(Junen-go) เนื้อเรื่องส่วนนี้จะเป็นเรื่องราว
ที่เขียนขึ้นมาใหม่
เล่าเรื่องราว 10 ปีต่อมา "Shizuku Tsukishima อายุ 24 ปี
ล้มเลิกความฝันอยากเป็นนักเขียนนิยาย ทำงานเป็นบรรณาธิการ
หนังสือสำหรับเด็กในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ขณะที่ Seiji Amasawa ยังคงวิ่งไล่ตามความฝันของตนเองในต่างประเทศ"
Nana Seino (Riko Akasaka - คู่ซ่าฮาคูณสอง!! Kyo kara Ore wa!!, Mayumi Kadota - โคโนะโดริ หมอสองชีวิต Kounodori,
Haruka Kiyan - เส้นทางชีวิต ลิขิตหัวใจ Koi wa Ameagari no You ni) รับบทเป็น Shizuku Tsukishima
Tori Matsuzaka (Tadashi Usobuki - Funohan, Katsuhiro Suzuki - The Top Secret ผ่าแผนลวง ล่าปริศนา, Satoshi Tezuka -
หน่วยพิทักษ์หอสมุด Toshokan Sensou, Itsuki Ayukawa - โลกทั้งใบมีเพียงเธอ perfect world) รับบทเป็น Seiji Amasawa
อ.Aoi Hiiragi ผู้วาด Hoshi no Hitomi no Silhouette (ขอสิทธิ์แค่คิดถึง) เขียนการ์ตูนเรื่อง Mimi wo Sumaseba มาลงพิมพ์ตอนแรกใน
นิตยสารการ์ตูน Ribon (Shueisha) ฉบับเดือน ส.ค. 1989 (3 ก.ค. 1989) จนกระทั่งจบในฉบับเดือน พ.ย. 1989 (3 ต.ค. 1989) รวมเป็น
ฉบับรวมเล่มแบบเล่มเดียวจบ ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อ 1 ก.พ. 1990 แล้วเขียนภาคต่อชื่อว่า Shiawasena Jikan - Mimi wo Sumaseba
ลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูนเล่มเดิมในปี 1995 นำมารวมเป็นฉบับรวมเล่มแบบเล่มเดียวจบ ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นในเดือน ก.พ. 1996 สตูดิโอจิบลิ
(Studio
Ghibli) นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อนิเม
เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญีปุ่นไปเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 1995
รับหน้าที่กำกับโดย
Yoshifumi Kondou กวาดรายได้ในญี่ปุ่น 1,850 ล้านเยน
(ลิขสิทธิ์ในไทยใช้ชื่อว่า Whisper of the Heart วันนั้น…วันไหน
หัวใจจะเป็นสีชมพู)
ระหว่างหยุดภาคเรียนในฤดูร้อน ชิซูกุ เด็กสาวมัธยมผู้มีความปรารถนาจะค้นหาพรสวรรค์ที่แท้จริงของตนเอง
ได้สังเกตเห็นแมวธรรมดาๆตัวหนึ่งขึ้นรถไฟด้วยตัวของมันเอง ความประหลาดใจทำให้เธอตัดสินใจที่จะตามมันไป
ความบังเอิญครั้งนี้นี่เองทำให้เธอได้พบกับเด็กหนุ่มปริศนาคนหนึ่งที่มีความตั้งใจที่จะทำตามฝันของตัวเอง
นามว่า เซย์จิ และบารอน รูปปั้นแมววิเศษแกะสลัก ที่ช่วยทำให้เธอได้ยินเสียงกระซิบในใจของตัวเธอเอง
และในอนาคตอันใกล้นี้ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นของชิซูกุจะนำพาเธอก้าวข้ามขอบเขตแห่งจินตนาการที่เธอเคยคิดและวาดฝันไว้
นอกจากนี้
อ.Aoi Hiiragi ยังได้นำการ์ตูนเรื่อง Mimi wo Sumaseba
ไปเขียนเป็นภาคแยกชื่อว่า Baron - Neko no Danshaku ตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม
ออกวางแผงแบบเล่มเดียวจบกับ Tokuma Shoten ในปี 2002 ต่อมาสตูดิโอจิบลิ นำการ์ตูนภาคแยกไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อนิเม เข้าฉายใน
โรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่
20 ก.ค. 2002 รับหน้าที่กำกับโดย Hiroyuki Morita
กวาดรายได้ในญี่ปุ่นไปถึง 6,460 ล้านเยน (ลิขสิทธิ์ในไทย
ใช้ชื่อว่า The Cat Returns เจ้าแมวยอดนักสืบ) หลังจากนักเขียนท่านนี้ก็กลับมาเขียนภาคต่อชื่อว่า Yume no Machi - Neko no Danshaku
ตีพิมพ์เป็นเล่มออกวางแผงแบบเล่มเดียวจบกับ Shueisha ในปี 2003
ที่มา Oricon , Natalie
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น