"Crayon Shin-chan 28", "Kyuuso wa Cheese no Yume wo Miru" & "Break the Silence" เปิดตัวในอันดับ 1, 5 & 7 Japan Box Office

 Eiga Crayon Shin-chan Gekitotsu! Rakuga Kingdom to Hobo Yonin no Yuusha (Crayon Shin-chan the Movie:
Crash! Rakuga Kingdom and Roughly Four Heroes) ภาพยนตร์อนิเมภาคที่ 28 ของเครยอนชินจัง เปิดตัวในอันดับที่ 1
Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์แรก (12-13 ก.ย. 2020) ประมาณ 262
ล้านเยน มียอดขายบัตรภาพยนตร์ 212,000 ใบ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันแรก 11 ก.ย. 2020
(เดิมมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันแรก 24 เม.ย. 2020 แต่ต้องเลื่อนกำหนดเข้าฉาย เนื่องจากได้รับผลกระทบ
จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19) สามวันแรกทำเงินไป 289,403,500 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ 233,592 ใบ
(รายได้สามวันแรกน้อยกว่าภาคที่ 27 เมื่อวันที่ 19-21 เม.ย. 2019 ที่ทำเงินไปได้ 316,049,500 เยน)



Jiko Bukken Kowai Madori (Stigmatized Properties) สัปดาห์ที่ 3 Japan Box Office หล่นจากอันดับที่ 1 มาอยู่ในอันดับที่ 2
ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สาม (12-13 ก.ย. 2020) 204,537,360 เยน (ลดลง 20%
เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่สอง) มียอดขายบัตรภาพยนตร์ 105,000 ใบ และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 1,456,180,050 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 1,093,799 ใบ



โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ ไดโนเสาร์ตัวใหม่ของโนบิตะ (Doraemon: Nobita no Shin Kyouryuu) ภาพยนตร์อนิเมของโดราเอมอน
ภาคที่ 40 สัปดาห์ที่ 6 Japan Box Office หล่นจากอันดับที่ 2 มาอยู่ในอันดับที่ 3 ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่หก (12-13 ก.ย. 2020) 113,783,750 เยน (ลดลง 18% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่ห้า) และกวาดรายได้
จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 2,844,505,250 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 2.36 ล้านใบ



Ito (Tapestry) สัปดาห์ที่ 4 Japan Box Office หล่นจากอันดับที่ 3 มาอยู่ในอันดับที่ 4 ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สี่ (12-13 ก.ย. 2020) 112,583,550 เยน (ลดลง 19% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่สาม)
และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 1,550,559,350 เยน



Kyuuso wa Cheese no Yume wo Miru (The Cornered Mouse Dreams of Cheese) ภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง
Kyuuso wa Cheese no Yume wo Miru (อันดับที่ 25 การ์ตูน Boy's Love ที่อยากแนะนำให้อ่าน จาก BookLive!) และ Sojou no
Koi wa Nido Haneru (อันดับที่ 1 จาก Boy's Love Awards ครั้งที่ 1 ปี 2009 และอันดับที่ 1 การ์ตูน Boy's Love น่าอ่านประจำปี 2009
จาก Kono BL ga Yabai! 2010) ผลงานของ อ.Setona Mizushiro โดยได้ Isao Yukisada (อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก Sekai no
Chushin de, Ai wo Sakebu), มารับหน้าที่กำกับ แล้วได้กลับมาร่วมงานกับนักเขียนบท Anne Horiizumi อีกครั้ง หลังจากภาพยนตร์เรื่อง
Narratage เมื่อปี 2017, นำแสดงโดย Tadayoshi Okura รับบทเป็น Kyoichi Otomo และ Ryo Narita รับบทเป็น Wataru Imagase
เปิดตัวในอันดับที่ 5 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์แรก (12-13 ก.ย. 2020) ประมาณ
89 ล้านเยน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันแรก 11 ก.ย. 2020 (แต่เดิมมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันแรก
5 มิ.ย. 2020 แต่ต้องเลื่อนกำหนดเข้าฉาย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19) รวมรายได้สามวันแรก
(11-13 ก.ย. 2020) ทำเงินไปแล้ว 153,027,300 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 106,508 ใบ



Midway อเมริกาถล่มญี่ปุ่น ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของยุทธการมิดเวย์ ซึ่งเป็นยุทธการที่สำคัญที่สุดในแนวรบด้านมหาสมุทรแปซิฟิก
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กำกับโดย Roland Emmerich (Independence Day ไอดี 4 สงครามวันดับโลก), เขียนบทโดย Wes
Tooke, แสดงโดย Ed Skrein, Patrick Wilson, Luke Evans, Aaron Eckhart, Nick Jonas, Mandy Moore, Dennis Quaid, Tadanobu
Asano, Woody Harrelson เปิดตัวในอันดับที่ 6 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาหฺ์แรก
(12-13 ก.ย. 2020) ประมาณ 75 ล้านเยน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันแรก 11 ก.ย. 2020 รวมรายได้สามวันแรก
(11-13 ก.ย. 2020) ทำเงินไปแล้ว 114,280,200 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 86,320 ใบ



Break the Silence: The Movie สารคดีคอนเสิร์ตเรื่องที่สามของวงบอยแบนด์ BTS ซึ่งพาไปดูเบื้องหลังการเดินสายคอนเสิร์ตทั่วโลก
Love Yourself: Speak Yourself บนสนามกีฬาขนาดยักษ์ของ 8 ประเทศ พร้อมเบื้องหลังการสัมภาษณ์ของวงหลังการแสดงสุดท้าย
เปิดตัวในอันดับ 7 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์แรก (12-13 ก.ย. 2020) ประมาณ
105 ล้านเยน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันแรก 10 ก.ย. 2020 รวมรายได้ตลอดสี่วันแรก (10-13 ก.ย. 2020)
ทำเงินไปแล้ว 195,084,200 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 105,492 ใบ จาก 265 จอภาพยนตร์



คู่ซ่าฮาคูณสอง (Kyou Kara Ore Wa!!) สัปดาห์ที่ 9 Japan Box Office หล่นจากอันดับที่ 4 มาอยู่ในอันดับที่ 8 ทำเงินจากการเข้าฉาย
ในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่เก้า (12-13 ก.ย. 2020) 64,752,850 เยน (ลดลง 23% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่แปด)
และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที๋ญี่ปุ่นไปแล้ว 5,081,545,200 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 4,012,663 ใบ



Fate/stay night [Heaven's Feel] III.spring song สัปดาห์ที่ 5 Japan Box Office หล่นจากอันดับที่ 5 มาอยู่ในอันดับที่ 9
ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ห้า (12-13 ก.ย. 2020) 70,232,800 เยน (ลดลง 35%
เมื่อเทียบกับช่วงสุดสัปดาห์ที่สี่) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 1,570,029,700 เยน



Onward คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์ (ชื่อในญี่ปุ่น 2 Bunno 1 no Mahou) สัปดาห์ที่ 4 Japan Box Office หล่นจากอันดับที่ 7
มาอยู่ในอันดับที่ 10 ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สี่ (12-13 ก.ย. 2020) 51,924,610 เยน
(ลดลง 31% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่สาม) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที๋ญี่ปุ่นไปแล้ว 702,738,770 เยน

อันดับรายได้ในญี่ปุ่นของภาพยนตร์อนิเมชั่นจาก Pixar (อัพเดท 12-13 ก.ย. 2020)
01. Finding Nemo (ปี 2003) - 11,000 ล้านเยน / 8.6 ล้านใบ
02. Toy Story 3 (ปี 2010) - 10,800 ล้านเยน / 7.2 ล้านใบ
03. Toy Story 4 (ปี 2019) - 10,090 ล้านเยน / 7.82 ล้านใบ
04. Monsters, Inc. (ปี 2002) - 9,370 ล้านเยน / 7.6 ล้านใบ
05. Monsters University (ปี 2013) - 8,960 ล้านเยน / 7.05 ล้านใบ
06. Finding Dory (ปี 2016) - 6,830 ล้านเยน / 5.57 ล้านใบ
07. The Incredibles (ปี 2004) - 5,260 ล้านเยน / 4.4 ล้านใบ
08. Up (ปี 2009) - 5,000 ล้านเยน / 3.8 ล้านใบ
09. Coco (ปี 2018) - 4,930 ล้านเยน / 3.93 ล้านใบ
10. Incredibles 2 (ปี 2018) - 4,900 ล้านเยน / 4.06 ล้านใบ
11. Inside Out (ปี 2015) - 4,040 ล้านเยน / 3.4 ล้านใบ
12. Wall-E (ปี 2008) - 4,000 ล้านเยน / 3.2 ล้านใบ
13. Ratatouille (ปี 2007) - 3,900 ล้านเยน / 3.1 ล้านใบ
14. Toy Story 2 (ปี 2000) - 3,450 ล้านเยน / 2.8 ล้านใบ
15. Cars 2 (ปี 2011) - 3,010 ล้านเยน / 2.32 ล้านใบ
16. Cars (ปี 2006) - 2,230 ล้านเยน / 1.8 ล้านใบ
17. Cars 3 (ปี 2017) - 1,800 ล้านเยน / 1.44 ล้านใบ
18. The Good Dinosaur (ปี 2016) - 1,690 ล้านเยน / 1.35 ล้านใบ
19. A Bug's Life (ปี 1999) - 1,150 ล้านเยน / 9 แสนใบ
20. Brave (ปี 2012) - 930 ล้านเยน / 6.8 แสนใบ
21. Onward (ปี 2020) - 703 ล้านเยน ***รายได้ 4 สัปดาห์***



The Confidence Man JP: Princess-hen สัปดาห์ที่ 8 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่แปด (12-13 ก.ย. 2020) 47,357,300 เยน (ลดลง 30% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่เจ็ด)
และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที๋ญี่ปุ่นไปแล้ว 3,479,115,300 เยน



Bokutachi no Uso to Shinjitsu Documentary of Keyakizaka46 (Documentary of Keyakizaka46 Our Truth or Dare)
ภาพยนตร์สารคดีของวงไอดอลเคยากิซากะ46 สัปดาห์ที่ 2 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่สอง (12-13 ก.ย. 2020) 35,181,000 เยน (ลดลง 60% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์แรก 5-6 ก.ย. 2020
ที่ท่ำเงินไปได้ 87,950,680 เยน) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที๋ญี่ปุ่นไปแล้ว 227,854,120 เยน



สองเรา เจ็บปวด เปราะบาง (Aokute Itakute Moroi | Blue, Painful, and Brittle) สัปดาห์ที่ 3 Japan Box Office
ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สาม (12-13 ก.ย. 2020) 27,715,500 เยน (ลดลง 44%
เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่สอง) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที๋ญี่ปุ่นไปแล้ว 324,180,700 เยน



หนึ่งหวาน หนึ่งซน คนมีรัก (Omoi, Omoware, Furi, Furare) สัปดาห์ที่ 5 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉาย
ในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ห้า (12-13 ก.ย. 2020) 24,020,750 เยน (ลดลง 36% เมื่อเทียบกับในช่วง
สุดสัปดาห์ที่สอง) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที๋ญี่ปุ่นไปแล้ว 732,153,550 เยน



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา Kogyotsushin , Eiga