วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ดาบพิฆาตอสูร มียอดพิมพ์ทั้งซีรีย์ในญี่ปุ่น 60 ล้านเล่ม

หนังสือการ์ตูนเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba) ผลงานของ อ.Koyoharu Gotoge ฉบับรวมเล่ม 20 ออกวางแผงที่ญี่ปุ่น
ในวันที่ 13 พ.ค. 2020 โดยสายคาดปกที่มาพร้อมกับเล่มนี้เปิดเผยให้ทราบว่าเฉพาะฉบับรวมเล่ม 20 มียอดพิมพ์ครั้งแรกในญี่ปุ่น
2,800,000 เล่ม และมียอดพิมพ์ทั้งจากฉบับหนังสือกับฉบับนิยายรวมกันในญี่ปุ่นทั้งหมด 60,000,000 เล่ม (ฉบับนิยายทั้งสองเล่ม
มียอดพิมพ์รวมกันในญี่ปุ่น 1,300,000 เล่ม) ก่อนหน้านั้นสายคาดปกที่มาพร้อมกับฉบับรวมเล่ม 19 (4 ก.พ. 2020) เคยแจ้งว่ามี
ยอดพิมพ์ทั้งซีรีย์ในญี่ปุ่น 40 ล้านเล่ม สำหรับผู้ที่เลือกซื้อเล่มนี้แบบ Special Edition ก็จะมี Postcard Set บรรจุมาพร้อมกันด้วย



อ.Koyoharu Gotoge เขียนการ์ตูนเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร มาเริ่มลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Shonen Jump ฉบับที่ 11/2016
(15 ก.พ. 2016) โดยได้ขึ้นเป็นภาพปกนิตยสารฉบับนั้น และมีภาพสีเปิดตอนอีกด้วย ปัจจุบันมีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว
20 เล่ม ยังไม่จบ และ อ.Aya Yajima นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปเขียนเป็นฉบับนิยาย เล่มแรกใช้ชื่อว่า ดาบพิฆาตอสูร ดอกไม้แห่งความสุข
(Kimetsu no Yaiba: Shiawase no Hana) ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2019 ซึ่งเด็กระดับชั้นประถมศึกษา 250,000 คน
เลือกให้อยู่ในอันดับ 10 จาก Kodomo no Hon Sousenkyo ครั้งที่ 2 และฉบับนิยาย เล่มสองใช้ชื่อว่า Kimetsu no Yaiba: Kataha
no Chou ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2019 มียอดขายทั้งฉบับหนังสือการ์ตูนและฉบับนิยายในญี่ปุ่นเกือบ 60 ล้านเล่มแล้ว

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้นิตยสารการ์ตูน Shonen Jump ต้องประกาศเลื่อนกำหนดวางแผงฉบับที่ 21/2020
จากเดิมวันที่ 20 เม.ย. 2020 แล้วกลับมาวางแผงอีกครั้งเป็นฉบับควบ 21-22/2020 ในวันที่ 27 เม.ย. 2020 แล้วยังส่งผลให้ ดาบพิฆาตอสูร
ฉบับรวมเล่ม 20 ซึ่งมีกำหนดออกวางแผงที่ญี่ปุ่นในวันที่ 1 พ.ค. 2020 ต้องถูกเลื่อนกำหนดออกวางแผงไปเป็นวันที่ 13 พ.ค. 2020 อีกด้วย
แน่นอนว่าไม่ได้กระทบแค่เรื่องเดียวแต่เป็นทุกเรื่องจากสำนักพิมพ์ Shueisha ซึ่งแต่เดิมมีกำหนดออกวางแผงที่ญี่ปุ่นในวันที่ 1 พ.ค. 2020

เรื่องราวในยุคไทโช (1912-1926) ทันจิโร่เด็กหนุ่มขายถ่านผู้แสนอ่อนโยน วันหนึ่งครอบครัวของเขาถูกอสูรฆ่าตาย
เพื่อหาทางช่วยเนซึโกะ น้องสาวที่โดนเปลี่ยนเป็นอสูรให้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง เขาจึงออกเดินทางเพื่อตามล่าอสูรที่ฆ่าครอบครัวของเขา



สตูดิโอ ufotable ยังได้นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปดัดแปลงเป็นทีวีอนิเม ความยาว 26 ตอนจบ เริ่มออกอากาศตอนแรกที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2019
จนกระทั่งจบลงในวันที่ 28 ก.ย. 2019 แต่ก่อนเริ่มออกอากาศทางทีวี เคยนำ 5 ตอนแรกของทีวีอนิเมเรื่องนี้ไปจัดฉายในรูปแบบภาพยนตร์อนิเม
ใน 11 โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาสองสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. 2019 ใช้ชื่อว่า Kimetsu no Yaiba: Kyoudai no Kizuna
แล้วยังได้มีการนำไปจัดฉายในโรงภาพยนตร์ Aratani Theatre ในเมือง Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา วันที่ 31 มี.ค. 2019 อีกทั้งสามารถ
คว้ารางวัลทีวีอนิเมยอดเยี่ยม, ตัวละครชายยอดเยี่ยม, ตัวละครหญิงยอดเยี่ยม, ออกแบบตัวละครฉบับอนิเมยอดเยี่ยม, เพลงประกอบยอดเยี่ยม
และผู้กำกับยอดเยี่ยม จาก Newtype Anime Awards ประจำปี 2018-2019 และสองรางวัลจาก Japan Character Award 2020

หลังจากทีวีอนิเม ดาบพิฆาตอสูร ตอนที่ 26 ออกอากาศจบลง ก็มีประกาศทำอนิเมภาคต่อโดยนำเนื้อเรื่องบทรถไฟแห่งอนันต์ (เริ่มตั้งแต่ตอนที่
53 ในฉบับรวมเล่ม 7 จนถึงตอนที่ 66 ในฉบับรวมเล่ม 8) มาสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมชื่อว่า Kimetsu no Yaiba: Mugen Ressha-hen สตูดิโอ
ufotable ยังคงรับหน้าที่ผลิตฉบับภาพยนตร์อนิเม เช่นเดียวกับที่เคยเป็นผู้ผลิตฉบับทีวีอนิเม โดยได้ Haruo Sotozaki กลับมารับหน้าที่กำกับ,
Akira Matsushima กลับมารับหน้าที่ออกแบบตัวละครฉบับอนิเม เช่นเดียวกับทีวีอนิเม สำหรับบรรดาพากย์หลักก็กลับมารับบทเดิมรวมครบถ้วน
Natsuki Hanae (พากย์เป็น Tanjirou Kamado), Akari Kitou (พากย์เป็น Nezuko Kamado), Hiro Shimono (พากย์เป็น Zenitsu Agatsuma),
Yoshitsugu Matsuoka (พากย์เป็น Inosuke Hashibira), Satoshi Hino (พากย์เป็น Kyojuro Rengoku) มีกำหนดเข้าฉายที่ญี่ปุ่น 16 ต.ค. 2020



ไม่เพียงแค่นั้น การ์ตูนเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร ยังได้มีการนำไปจัดแสดงในรูปแบบละครเวที ที่ The Galaxy Theater กรุงโตเกียว ตั้งแต่วันที่
18-26 ม.ค. 2020 ทั้งหมด 15 รอบ จากนั้นจะย้ายไปจัดแสดงต่อที่ AiiA 2.5 Theater Kobe เฮียวโงะ ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. 2020
ทั้งหมด 5 รอบ โดยได้ Kenichi Suemitsu มารับหน้าที่กำกับและเขียนบท และ Shunsuke Wada มารับหน้าที่ทำเพลงประกอบ



ที่มา daikokuya529835

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น